| มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย | |
|
|
|
เธเธนเนเธเธฑเนเธ | เธเนเธญเธเธงเธฒเธก |
---|
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat Mar 31, 2007 9:13 pm | |
| แมนขับรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสถ์ของคุณนายแจ่มในเวลาหัวค่ำ จอดรถไว้ริมรั้วแล้วชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ยอมกดกริ่ง ยืนมองอยู่อย่างนั้นจนยุงเริ่มมารุมกัด แมนตบยุงที่เข้ามารุมเขาราวกับเป็นซุปเปอร์สตาร์ก็ไม่ปาน แล้วก็ทนไม่ไหว ตะโกนออกไป
"บริทนีย์ บริทนีย์ อยู่ไหมมมมมมมม" อ้าว แล้วกริ่งทำไมไม่กดล่ะพี่น้องเอ้ย
ตะโกนแล้วรอสักพัก ก็ได้ยินเสียงตะโกนกลับ "อยู่ๆ รอแปบนึง" แน่ะ มีตะโกนกลับด้วย
"เร็วๆหน่อย ยุงกัด" แมนตะโกนไปอีก เออ เอาเข้าไป ตะโกนให้ชาวบ้านเขาหนวกหูกันซะงั้น
ครู่หนึ่ง บริทนีย์ก็วิ่งออกมาจากบ้านแล้วเปิดประตูรั้วออกมายืนยิ้ม แต่แมนทำหน้าบึ้ง "กว่าจะออกมาได้ ยุงกัดเลือดจะหมดตัวอยู่แล้ว"
"อ้าว" บริทนีย์หุบยิ้ม "ชั้นนัดนายตอนไหน หา นัดตั้งแต่เย็น แล้วดันมาเอาป่านนี้ ยังจะมาบ่นอีกนะ"
"ช้านิดช้าหน่อยแค่นี้เอง" แมนว่า แล้วมองไปรอบๆ "อ้าว แล้วคุณพัชราไม่มาด้วยหรอ"
บริทนีย์ยิ้มนิดๆ พยายามจับผิดแมน "พัชราเขาโดนคุณนายลากตัวไปตั้งแต่เย็นแล้ว เพราะคุณนายจะรีบไปหาพี่ตุ่นชุมพล ก็นายอยากมาช้าเองนี่ ใครๆ เขาก็ไปกันแล้วทั้งนั้นแหละ"
"โธ่ มาช้ามาเร็วมันก็ไม่ต่างกันหรอกน่า แล้วนี่" มองบริทนีย์ "ทำไมไม่ไปกับคุณนายเขาล่ะ"
"ไม่เอาอ่ะ เบื่อนั่งรถแล้ว อยากนั่งรถมอเตอร์ไซค์มากกว่าอ่ะ" บริทนีย์ว่าแล้วเร่ง "ไม่ต้องมาทำสงสัยอะไรตอนนี้ได้ไหม รีบไปเหอะ เดี๋ยวลิเกเล่นก็ไม่มีที่นั่งหรอก"
"เธอเนี่ยนะจะดูลิเก" แมนทวนคำ แต่ก็ยอมขึ้นไปนั่งสตาร์ทรถแต่โดยดี บริทนีย์ยักไหล่ "เห็นเขาว่าพี่ตุ่นชุมพลน่ะหล่อมาก ชั้นว่า ไปดูหน้าพี่ตุ่นชุมพล ก็คงดีกว่าดูหน้านายมั้ง" ว่าแล้วขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย แมนมองอย่างหมั่นไส้
"พูดอย่างนี้มันน่าให้ไปด้วยจริง" บริทนีย์ฟังแล้วก็หัวเราะ แมนส่ายหน้าก่อนจะขับรถออกไป
แมนขับรถออกมาจนใกล้จะถึงบริเวณวัดอยู่แล้ว แต่ต้องผ่านป้าช้าหลังวัดก่อน และต้องผ่าน...บ้ายยายเป๋อก่อน
ระหว่างนั้นเอง ที่บริทนีย์สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงสะกิดแมน "เฮ้ย แมนๆ ชั้นเห็นอะไรไม่รู้"
แมนชะลอรถ หันมาถาม "เห็นอะไร"
"อะไรไม่รู้ที่บ้านยายเป๋ออ่ะ" บริทนีย์เสียงสั่น "มันเป็นเงาดำๆ คล้ายๆ คนหลายคนอยู่ในบ้านยายเป๋อน่ะ"
แมนเบรคเอียดทันที รถมาจอดยู่หน้าปากทางบ้านยายเป๋อ
"มันก็เงาคนนี่แหละจะมีอะไร..."แมนว่าแล้วเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ "เอ แต่คนที่ไหนจะมาหายายเป๋อ แกไม่เคยสุงสิงกับใคร แล้วยิ่งที่วัดมีงานอย่างนี้ จะมีใครมีธุระกับยายเป๋อล่ะ"
"แต่เมื่อกี้ชั้นเห็นจริงๆ นะ" บริทนีย์ว่าเสียงสั่น ก่อนจะร้องออกมา "นั่นไง เงานั่นมาอีกแล้วอ่ะ"
แมนมองตาม แล้วเค้าก็เห็นบ้านยายเป๋อที่มีแสงสว่างรางๆจากตะเกียงซึ่งแกคงจุดเอาไว้ เห็นเป็นเงาดำๆ ของผู้ชายคนหรือสองหรือหลายคนก็ดูไม่ถนัดนัก
พลันลมเย็นๆ ก็เข้ามาปะทะตัวทั้งสองวูบหนึ่ง มันคงจะเย็นมากจนทำให้ขนลุกเลยทีเดียว บริทนีย์เอื้อมมือมาเกาะแขนแมนไว้ มองเข้าไปที่กระท่อม
"แมน ชั้นไม่ไหวแล้วอ่ะ ไปจากที่นี่กันเถอะ" แมนหันมามองพยักหน้าเห็นด้วย แต่เมื่อกลับไปมองอีกทีก็ต้องร้องออกมา
"เฮ้ย ไม่ใช่เงาแล้ว เป็นคนจริงๆนะ บริทนีย์ ดูสิ" ว่าแล้วชี้มือให้ดู แต่ที่ตรงนี้มันมองไม่เห็น ทั้งสองจึงค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้อีกนิด แล้วเข้าไปนั่งแอบหลังพุ่มไม้ มองความเคลื่อนไหวในบ้านยายเป๋ออย่างไม่คลาดสายตา
"เห็นหรือเปล่า" บริทนีย์ถามทั้งๆที่แอบหลังแมน อยากดูก็อยากดู กลัวก็กลัว แมนส่ายหน้าแต่ไม่ได้หันมา พยายามเพ่งมอง
"เห็น แต่ไม่รู้ว่าใคร แสงมันไม่ชัดอ่ะ แล้วไม่รู้ด้วยว่ามีอยู่ในบ้านอีกกี่คน"
"ยายเป๋อแกอาจจะมีคนมาหามั้ง" บริทนีย์คิดในแง่ดี แต่แมนหันมามองแล้วส่ายหน้า "ยายเป๋อแกไม่มีคนมาหามานานแล้วล่ะ แล้วตอนกลางคืนเนี่ยนะ จะมีใครมาหาแก"
"ถ้าไม่ใช่คนมาหา หรือว่าจะเป็น....เอ่อ" บริทนีย์พูดตะกุกตะกัก
"เฮ้ย อย่าพูดบ้าๆ ดิ ดูนั่น" แมนชี้ให้บริทนีย์ดูยายเป๋อที่ออกมาบ้านเพื่อมาส่งผู้มาเยือน เห็นหน้าตายายเป๋อภายใต้แสงเรืองๆ ของตะเกียงแล้วทำให้บริทนีย์ต้องเกาะแขนแมนแน่นด้วยความกลัว
ระหว่างนั้นเอง บริทนีย์ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆ มาโดนที่หลัง มันผ่านวูบเข้ามา บริทนีย์ตกใจร้องออกมาเสียงดังลั่น
"จ๊ากกกกกกกก กรี๊ดดดดดดด" | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Thu Apr 05, 2007 10:54 pm | |
| บริทนีย์ร้องแล้วเข้าไปแอบหลังแมนทันที พลางบอกแมนเสียงสั่น "แมนๆ อะไรไม่รู้มาสะกิดหลังชั้นอ่ะ"
แมนสะดุ้ง ตกใจกับเสียงแปดหลอดของบริทนีย์ แล้วรีบหันไปดูทันที ก่อนจะอึ้งไปพูดได้คำเดียว "เอ่อ...."
บริทนีย์เห็นแมนนิ่งไปก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นดู
หมวดเด่นนั่นเองที่ยืนมาดเข้มอยู่ตรงหน้า กำลังมองมาที่สองคนด้วยสายตาจับผิด
วันนี้หมวดเด่นแต่งตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณวัด แต่พอขับรถมาถึงหลังวัดก็มาเจอชายหญิงคู่นี้อีกแล้ว
"นายแมน ผมเตือนคุณแล้วไม่ใช่หรอ"
"เดี๋ยวสิครับ หมวด มันไม่ใช่อย่างที่หมวดคิด" แมนรีบปฏิเสธเสียงหลง
"คุณอยู่ด้วยกันสองต่อสองหลังพุ่มไม้ ในป่าหลังวัด แถมเป็นหน้าบ้านยายเป๋อซะด้วย คุณจะให้ผมคิดว่ายังไงล่ะ" หมวดเด่นเสียงเข้ม
"มันไม่ใช่อย่างที่หมวดคิด" แมนย้ำคำเดิม จะอธิบายก็อธิบายไม่ถูก "ก็บ้านยายเป๋อน่ะครับ"
"บ้ายยายเป๋อทำไม อ๋อ มันเปลี่ยวดีใช่ไหม"
"โอ๊ย หมวด ไปกันใหญ่แล้ว" แมนร้องอออกมา บริทนีย์มองอย่างงง ก่อนจะรีบเล่า
"เรามาอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้วนะคะ บรรยากาศมันน่ากลัวมากเลยค่ะหมวด" การอธิบายของบริทนีย์ดูจะไม่ทำให้เรื่องง่ายขึ้น เพราะหมวดเด่นมองมือของบริทนีย์ที่เกาะแขนแมนอยู่นานแล้ว อีกทั้งเมื่อกี้ยังแอบหลบที่หลังแมนอีก
"ครับ ผมก็พอรู้ว่า คงจะมานานแล้ว"
"แต่พวกเราก็คงจะไปแล้วล่ะคะ อยู่ไม่ไหวแล้ว" ความเข้าใจของบริทนีย์น่าจะตรงกันข้ามของหมวดเด่น เพราะหมวดพูดยิ้มๆ "ก็ทีหลังอย่ามาที่ประเจิดประเจ้ออย่างนี้สิครับ"
แมนฟังแล้วยกมือขึ้นกุมหน้าผาก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก "ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่หมวดคิดนะ ผมแค่มาแอบดูยายเป๋อแค่นั้นเอง หมวดจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ"
"เอาๆ เอ้างั้นก็ได้ แล้วดูเสร็จหรือยังล่ะ ถ้าดูเสร็จแล้วก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี" หมวดเด่นว่าแล้วเดินออกไป ก่อนจะออกไปยังหันมาทิ้งท้าย
"ไปดูลิเกพี่ตุ่นชุมพลน่าจะจรรโลงใจมากกว่ามาดูยายเป๋อนะ" แล้วหมวดเด่นก็ขับรถออกไป
ทั้งสองคนมองตามด้วยความรู้สึกแปลกๆ ยิ่งหันมามองกันแล้วก็รู้สึกแปลกๆ
"หมวดเด่นเขาพูดอะไรน่ะ" บริทนีย์ถาม
"เฮ้อ ไม่รู้เขาสิ ช่างเขาเหอะ" แมนทำท่าปลง หันไปมองบ้านยายเป๋ออีกทีก็เห็นบ้านตกอยู่ในความมืด ยายเป๋อหายไปไหนแล้ว "อ้าว ยายเป๋อหายไปไหนแล้วอ่ะ"
"สงสัยแกกลับเข้าบ้านนอนแล้วมั้ง ชั้นว่าเราไปกันเหอะ กลัวอ่ะ" บริทนีย์ว่าอ่อยๆ แมนจึงพยักหน้า แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นมือบริทนีย์ที่เกาะแขนตนเองอยู่ รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้
"แล้วนี่เธอมาเกาะชั้นไว้ทำไมเนี่ย" แมนพูดไม่มองหน้า บริทนีย์จึงรีบปล่อยทันที "แหม ก็มันกลัวอ่ะ ขอจับหน่อยไม่ได้หรือไง"
"มิน่าล่ะ หมวดเด่นถึงพูดแปลกๆ เป็นสาวเป็นนางมาจับมือผู้ชายได้ยังไง" แมนพูดดุๆ เพราะชักจะเริ่มเขิน พลางลุกขึ้นยืน
"แล้วอย่าไปจับใครเขาสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างนี้อีกนะ" พูดแล้วรีบเดินไปที่รถไม่มองหน้า บริทนีย์มองตามอย่างงงๆ แต่ก็เดินตามมา
"แหม ตัวเป็นทองหรือไง แค่จับนิดหน่อยไม่ลอกหรอกน่า" บ่นแล้วเดินขึ้นมานั่งซ้อนท้าย "คิดซะว่าชั้นเป็นเพื่อนผู้ชายก็ได้นี่"
"จะให้คิดงั้นได้ไงเล่า" แมนหันมาว่า แล้วนึถถึงตอนที่บริทนีย์เกาะแขนตนเอง ขณะที่นั่งอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิดหลังพุ่มไม้ สัมผัสนั้นมันทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร คิดแล้วเขินขึ้นมานิดๆ | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Thu Apr 05, 2007 10:57 pm | |
| พัชรานั่งมองคุณนายแจ่มพูดคุยอย่างสนิทสนมกับกับพี่ตุ่น ชุมพลอย่างเบื่อๆ วันนี้คุณนายลากลูกสาวมาแต่หัววันเพื่อที่จะได้มาคุยกับพี่ตุ่นชุมพลก่อนขึ้นทำการแสดง
แต่ไม่ไหวแล้วล่ะ ไม่รู้คุณแม่จะคุยอะไรกันนักหนา พัชราคิดแล้วเซ็ง ก่อนจะหันรีหันขวาง หาทางหนีทีไล่ เมื่อเห็นว่าปลอดคนก็รีบเดินออกมาทันที
พัชราเดินออกมาจากบริเวณโรงลิเก ตรงไปที่โบสถ์พระประธาน ซึ่งค่อนข้างเงียบ พรุ่งนี้จึงจะมีพิธียกช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ เข้าไปไหว้พระดีกว่า คิดแล้วเดินเข้าไปด้านใน
แต่เมื่อเข้าไปในโบสถ์ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นว่ามีคนๆ หนึ่ง กำลังนั่งอยู่เงียบๆ ที่หน้าพระประธาน
พัชราขยับจะเดินออกมา แต่คนๆนั้นหันมาเห็นซะก่อน
"โบสถ์ที่ตั้งกว้าง เข้ามาไหว้อีกคนคงไม่อึดอัดหรอกมั้ง" ทุยนั่นเองที่นั่งอยู่ เขาพูดเสียงเรียบมองมาที่พัชรานิ่งๆ
พัชราหันรีหันขวาง จะออกไปเขาจะยิ่งว่า จึงเดินเข้ามานั่งอยู่ไกลห่างจากทุยพอสมควร
ทุยหันมามอง ก่อนจะทำไม่รู้ไม่ชี้ กระเถิบมานั่งใกล้ๆ "ทำไมครับ รังเกียจที่จะไหว้พระร่วมกับคนจนๆ หรอ"
พัชราหันมามอง "อย่ามาหาเรื่องกันนะ"
"ผมไม่ได้หาเรื่อง แต่เห็นคนนั่งห่างเป็นวาอย่างนี้ เป็นใคร ใครก็ต้องคิด"
พัชราฟังแล้วเมินหน้าหนีไป ขยับจะลุกไปจุดธูป เทียน แต่ทุยรีบยื่นส่งให้ก่อน พัชรามองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรับมาแล้วไหว้อธิษฐานพระเงียบๆ
ทุยแอบมองคนข้างๆ เห็นกำลังตั้งสมาธิตั้งใจไหว้พระก็มองเพลิน แต่คงจะเพลินมากไปหน่อย เพราะเมื่อพัชราไหว้พระ เอาธูปไปปักกระถางธูปกลับมากราบพระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุยยังไม่เลิกมอง
พัชราหันมาเห็นสายตาของเขา สายตานั้นมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอต้องหลบสายตา ก่อนจะบอกเบาๆ "นายมองอะไร ไม่เคยเห็นคนไหว้พระหรือไง" พูดโดยไม่มองหน้า
"คนไหว้พระน่ะเคยเห็น แต่คนสวยไหว้พระเพิ่งจะเคยเห็น" ทุยว่าลอยๆ
"บ้า" พัชราเผลอพูดออกมาเบาๆ
"อ้าว คุณมาว่าผมทำไม ผมบอกหรือยังว่าคนสวยคนนั้นคือคุณ แล้วจะเดือดร้อนทำไม" ทุยพูดหน้าตาเฉย ทำเอาพัชราเมินหน้าหนี จะรีบลุกกลับ แต่ทุยรีบยื่นเซียมซีไปให้
"ไม่เสี่ยงเซียมซีหน่อยหรอ เซียมซีวัดนี้น่ะ แม่นนะ" พูดแล้วยื่นให้ ก่อนจะทำท่าลังเล "เอ๊ะ หรือว่ารังเกียจ"
พัชราถอนหายใจอย่างฉุนนิดๆ รับเซียมซีมาทันที ก่อนจะค่อยๆ อธิษฐานแล้วเริ่มเขย่าเซียมซี เสียงดังก้องไปทั่วโบสถ์
สักพักหนึ่งก็ได้เซียมซีร่วงลงมาอันหนึ่ง พัชราหยิบขึ้นมาดู
"คุณได้เบอร์อะไร" ทุยถาม พัชรามองดูเลขในเซียมซีนั้นแล้วว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวชั้นไปหยิบเอง"
ทุยหันมามองหน้า "ผมจะไปหยิบมาให้" สายตาของทุยนั้นทำให้พัชราต้องบอกเลขออกไป
"12....ค่ะ"
ทุยรับฟังแล้วยิ้มๆ "นึกว่าจะได้เลขเดียวกับผม ผมได้เลข 2..." ว่าแล้วก็ไปหยิบใบเซียมซีหมายเลข 12 มา ทำท่าจะส่งให้ แต่กลับยึดมาอ่านไว้เอง พัชราโวยทันที
"นี่นาย มารยาทน่ะมีไหม นี่มันเซียมซีของชั้น เอาไปอ่านได้ไง"
ทุยหันกลับมามองยิ้มๆ "พอดีผมมันไม่มีมารยาทซะด้วย" ว่าแล้วก็เปิดเซียมซีเบอร์ 12 ขึ้นมาดู "เอางี้ ผมอ่านให้ฟังแล้วกัน นะ" แล้วก็อ่านเสียงดังโดยไม่รอคำอนุญาตจากเจ้าของ
"ใบสิบสองงามพร้อมทุกสิ่งสรร สารพันได้มาดังใจหมาย ที่มีทุกข์มาเยือนจะเคลื่อนคลาย มีโรคภัยจะหายได้ทันที ถามหาทรัพย์ก็มีอยู่มากล้น ถามหาคนคู่ครองไม่หมองศรี ถึงยากดีมีจนเป็นคนดี ถึงจะมีอุปสรรคอย่าท้อใจ จงช่วยกันฟันฝ่าถึงฝั่งฝัน จงช่วยกันขจัดทุกข์ให้สดใส ท่านว่าเนื้อคู่นี้ดีกระไร อยู่ไม่ไกลได้เชยชมสมใจปอง จะรักกันมั่นคงสมใจหมาย รักมิคลายยืนอยู่เป็นคู่สอง สุขสมหวังดังอยู่ชั้นวิมานทอง เป็นคู่ครองรักกันนิรันดร์เอย" | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Thu Apr 05, 2007 11:00 pm | |
| ทุยอ่านเซียมซีจนจบหันมามองก็เห็นพัชรานั่งฟังเพลิน จึงว่า
"ดวงดีจัง โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ" พัชรารู้สึกตัว เมินหน้าหนี ก่อนจะว่า "ขอเซียมซีชั้นได้หรือยัง"
"ก็เอาไปสิ ของผมเบอร์ 2 ก็ดีเหมือนกัน จะว่าไปก็คล้ายของคุณเหมือนกันนะ" ทุยยื่นเซียมซีของพัชราให้ ก่อนจะหยิบเซียมซีของตัวเองออกมา
"ผมจะอ่านให้ฟัง"
"ใครเขาอยากจะฟังหรอ" พัชรารีบขัดขึ้นทันที แต่ทุยไม่สนใจ "ก็ผมอยากอ่านให้ฟัง ก็ทนฟังหน่อยแล้วกัน"
"ใบที่สองแต่เริ่มจะจนยาก ต้องลำบากไร้สุขทุกข์ขัดสน แต่ถ้ามีมานะและอดทน จะผ่านพ้นสิ่งร้ายไปด้วยดี ถามหาเคราะห์เคราะห์นั้นค่อยจางหาย ถามหาโรคจะค่อยคลายได้สดศรี ถามหารักจะสดใสไร้ราคี มีคู่ดีอยู่ไม่ไกลได้ชื่นชม จะช่วยกันฝ่าฟันกับปัญหา ด้วยปัญญาสมองตรองเหมาะสม ภายภาคหน้าจะได้ดีที่นิยม ดังพรพรหมจากสวรรค์ท่านบันดาล ขอให้เพียรทำดีนี้ต่อไป อีกไม่ไกลหมดทุกข์มีสุขศานต์ กับคู่ครองจะรักกันมั่นยืนนาน สุขสำราญใบนี้ว่าดีเอย"
ทุยอ่านจบหันมามองหน้าพัชรา "เห็นไหม ช่วงท้ายเหมือนกัน"
พัชรามองสายตาเขาแล้วสะบัดหน้าหนี "เซียมซีมีตั้งหลายสิบใบ มันก็ต้องเหมือนกันบ้าง ไม่เห็นจะแปลก"
"อย่างนี้เขาไม่เรียกแปลกหรอก เขาเรียกดวงสมพงษ์กันต่างหาก" ทุยว่า พัชราหันมามองหน้า เห็นทุยมองมาด้วยสายตาแปลกๆ ก็รีบยกคำพูดมาเป็นกำบังปิดกั้นความรู้สึกทันที
"นายน่าจะดวงสมพงษ์กับแม่ชั้นมากกว่านะ เพราะแม่ชั้นน่ะจะทำให้นายไม่..ลำบากไร้สุขทุกข์ขัดสน...เหมือนในเซียมซีไง"
ทุยฟังแล้วขมวดคิ้ว มองหน้าพัชรา "คุณแกล้งพูดให้ผมเจ็บใจใช่ไหม คุณคิดว่าทำอย่างนี้แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น" พูดแล้วจ้องหน้าพัชราเขม็ง พัชรามองสายตานั้นแล้วใจหาย ค่อยๆ ถอยออกมาจากโบสถ์ ทุยก็เดินตามมา
จากเดิน เปลี่ยนเป็นวิ่ง พัชราวิ่งอ้าวออกจากโบสถ์ทันที มีทุยวิ่งตาม
พัชราวิ่งออกมาถึงหน้าโบสถ์ แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก เมื่อทุยวิ่งมาดักหน้าเอาไว้ แต่เขาไม่ได้แตะต้องตัวเธอ
"หนีผมทำไม ทำอะไรไว้ก็รับผิดชอบสิ" ทุยว่าเสียงเครียด "คุณสนุกนักหรือไง ที่ได้แกล้งให้ผมเจ็บใจ ผมก็นึกว่า..." ทุยหยุดพูด มองหน้าพัชรานิ่ง แววตานั้นคล้ายมีแววตัดพ้อ
"นึกว่าคุณจะเข้าใจผมบ้าง ผมให้สร้อยคุณ ก็เพราะรู้ว่าคุณจะไม่เอาไปให้คุณนาย ผมหลงคิดว่า คุณจะไม่ดูถูก ไม่รังเกียจผม แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่"
พัชรามองหน้าทุย รู้สึกคล้ายจะใจหายที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเอง กี่ครั้งที่พูดจาแบบนี้ใส่เขา ทั้งๆที่ ไม่ได้คิดตามคำพูดนั้นแม้แต่นิดเดียว
"ชั้นจะไปหาแม่" พัชราบอกออกมาเบาๆ ความรู้สึกผิดอยู่เต็มหัวใจ แต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้
"คุณยังไปไหนไม่ได้.." ทุยขวางเอาไว้ "คุณต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกของผม" ทุยว่า จ้องหน้าพัชราเขม็ง ขณะที่พัชรานั้นหลบสายตา จนหางตาไปเจอกับอะไรเข้า
"เอ๊ะ นั่นอะไร" พัชราร้องออกไปด้วยความรู้สึกตกใจ ทุยหันมามองตามเสียงพัชราทันที... | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Thu Apr 05, 2007 11:03 pm | |
| บริเวณด้านหลังโรงลิเกนั้นคลาคล่ำไปด้วยลิเกทั้งคณะและเหล่าแม่ยกทั้งหลาย (รู้สึกว่าอย่างหลังนี่จะมากหน่อย) แม่ยกเหล่านี้กำลังนั่งล้อมหน้าล้อมพ่อตุ่น ชุมพลที่นั่งยิ้มหวานเป็นไข่แดงอยู่ตรงกลาง
ต่างเบียดเสียดเยียดยัดกันจนพ่อตุ่น ชุมพลต้องปรามเป็นระยะๆ "ไม่ต้องเบียดกันครับ ตุ่นรักทุกคนอยู่แล้ว" ด้วยคำพูดเพียงแค่นี้เหล่าแม่ยกก็ปลื้ม ยิ้มกันแก้มแทบปริ
คุณนายแจ่มนั่งเขม่นอยู่กับคุณนายเป็ด ทั้งสองเตรียมพวงมาลัยติดแบ้งค์พันเอามามอบให้พ่อตุ่น ชุมพลทั้งคู่
"โธ่ เอามาทำไมให้เปลืองเงินเปลืองทองครับ แค่นี้ตุ่นก็รักทุกคนอยู่แล้ว" พ่อตุ่น ชุมพลว่าเสียงหวาน
"ไม่เป็นหรอกพ่อตุ่น ของเล็กๆน้อยๆ พี่เต็มใจให้จ้ะ" คุณนายแจ่มลดทอนอายุตัวเองไปหลายปีทีเดียว
"ส่วนพี่น่ะเต็มใจซะยิ่งกว่าเต็มใจอีกจ้ะ" คุณนายเป็ดเกทับ ทำเอาคุณนายแจ่มหันมาขมวดคิ้ว เขม่นใส่ ก่อนที่จะพูดอะไร พ่อตุ่น ชุมพลก็รีบพูดขึ้นมาก่อน
"แต่ตุ่นน่ะไม่เต็มใจครับ"
คุณนายทั้งสองหันมามองหน้าพ่อตุ่น ชุมพลทันที "พ่อตุ่นไม่เต็มใจหรือจ๊ะ พี่ทำอะไรให้พ่อตุ่น ไม่พอใจหรือเปล่า" คุณนายแจ่มรีบถาม
"ตุ่นน่ะไม่เต็มใจครับ เพราะใจของตุ่นน่ะไปเติมหัวใจของพี่ทั้งสองคนจนหมดแล้ว" ฮิ้ววววววววววว
คุณนายทั้งสองได้ฟังคำหวานของพระเอกลิเกรูปหล่อถึงกับยิ้มแก้มปริ ทำหน้าปลื้มใจกันจนสองสาว พุทรา มะยมที่นั่งถัดไปทางด้านหลังส่ายหน้า
"น่าเบื่อจริงๆ" พุทราว่าแล้วหันไปหาลูกตุ้มที่นั่งข้าง "เธอไม่เบื่อมั่งหรอลูกตุ้ม ต้องมานั่งเฝ้าคุณนายเป็ดเนี่ย"
"เบื่อสิ ชั้นอยากจะออกไปเที่ยวงานวัดจะตาย" ลูกตุ้มตอบ
"งั้นเราไปกันไหม"มะยมเอ่ยชวน ลูกตุ้มทำท่าลังเล "แล้วพวงมาลัยของเธอล่ะ"
"พวงมาลัยชั้นน่ะ เอาไว้ให้พี่ตุ่นตอนแสดงลิเกก็ได้ ตอนนี้เราออกไปกันก่อนเหอะ อยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น" พุทราว่า เมื่อเห็นว่าคุณนายทั้งสองต่างยึดพื้นที่ และแย่งพี่ตุ่น ชุมพล ไปเป็นของตัวเองแล้ว
ทั้งสามจึงเดินออกมาจากทางด้านหลังโรงลิเก เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอร้านขายของเล่น ทั้งหมดปรี่เข้าไปดูทันที
ของเล่นมากมายหลากหลายชนิดสีสันสดใสวางขายอยู่ น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
"นี่ๆ เราเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ ไฟเย็นกันไหม" พุทราว่าแล้วหยิบพลุ ดอกไม้ไฟ ไฟเย็นขึ้นมาดูอย่างสนใจ แต่มะยมค้านเบาๆ
"จะดีหรอพุทรา" ลูกตุ้มเองก็เสริม "นั่นสิ เดี๋ยวพลาดพลั้งขึ้นมาจะเป็นอันตรายหรือเปล่า"
"พวกเธอว่างั้นหรอ" พุทราถามอย่างผิดหวังหน่อยๆ ก่อนจะพยักหน้า แล้วเดินเอาพลุ ดอกไม้ไฟ ไฟเย็นไปเก็บตรงที่วางบริเวณค่อนไปทางหลังร้าน
แต่ยังไม่ทันจะวางของเข้าที่ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน
"เอ้าๆ ซื้อพลุ ดอกไม้ไฟมาเล่น อยากเจ็บตัวฟรีหรือไง" พุทรารีบหันไปมองทันที จึงเห็นว่าหมวดเด่นกำลังยืนมองอยู่ | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Thu Apr 05, 2007 11:06 pm | |
| ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย ยิ่งมาจุดในงานวัดอย่างนี้ เกิดลุกลามขึ้นมาจะทำยังไง" หมวดเด่นว่าเสียงเข้มๆ
พุทราชะงักมือที่จะวางของ แล้วตัดสินใจหยิบทั้งหมดขึ้นมาถือไว้ใหม่ "ก็แล้วมันเกิดหรือยังล่ะหมวด"
"ผมขอยืนยันคำเดิมนะ ผมไม่รอให้มันเกิดเรื่องก่อนถึงค่อยมาห้ามหรอก"
"หมวดจะห้ามชั้นซื้อหรอ" พุทราเสียงแข็ง หมวดเด่นเองก็ไม่ยอม "ใช่ครับ ผมขอห้ามคุณซื้อ"
"แล้วหมวดมีสิทธิอะไร นี่มันไม่ใช่ของผิดกฏหมาย มันก็แค่ของเล่นธรรมดา ถ้ามันผิดจริง เขาก็คงไม่เอามาขายหรอก จริงไหม"
"แต่ที่ผมห้ามเพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพของทุกคนนะ" หมวดเด่นแย้ง เขาจะยอมให้ทุกคนตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร (ตรงนี้เว่อร์ไปแล้วหมวด)
"เลิกคิดว่าตัวเองทำงานสักทีได้ไหมหมวด ถอดชุดตำรวจออกแล้วกลับไปเป็นชาวบ้านธรรมดาบ้างได้ไหม แล้วชีวิตหมวดอ่ะ จะไม่เคร่งเครียดอย่างทุกวันนี้หรอก จะบอกให้" พุทราว่า แล้วมองหน้านิดหนึ่ง ก่อนจะคว้าพลุ ดอกไม้ไฟ ไฟเย็นทั้งถุงเอาไปให้พ่อค้าคิดเงิน
หมวดเด่นฟังแล้วอึ้งไป ผู้หญิงคนเมื่อกี้พูดจาสะกิดใจเขาอย่างประหลาด นี่เขาทำงานมากไปหรือเปล่า เสต็ปที่เคยเต้นเดี๋ยวนี้ก็ค่อยหายไป เพราะภาระงานรัดตัว มันทำให้เขานึกภาพตัวเองเป็นคนธรรมดาไม่ออกเสียแล้ว
คิดมาถึงตอนนี้หมวดเด่นก็เหลือบไปมองพุทราเห็นกำลังจ่ายเงินพ่อค้า แล้วเดินออกจากร้าน หมวดเด่นจึงตามไป
"ตกลงก็ซื้อมาจนได้นะ" หมวดเด่นเดินมายืนข้างๆ พุทรา พุทรายักไหล่ให้
"หมวดไม่ต้องมาสนใจเรื่องชั้นหรอก สนใจเรื่องตัวเองดีกว่า วันนี้เขามารื่นเริงกันในงานวัด แล้วทำไมหมวดจะต้องมาเคร่งเครียดอยู่คนเดียวด้วย"
"นี่ผมเคร่งเครียดมากขนาดนั้นเลยหรอ"
"หมวดไม่รู้ตัวเองหรอก ใครๆ เขาก็ว่าหมวดดุทั้งนั้นแหละ" พุทราหันมาว่า ก่อนจะมองไปรอบๆ ทำท่ามองหา หมวดเด่นจึงมองตาม
"หาคุณมะยมหรอ"
"ใช่ค่ะ เมื่อกี้ยังอยู่กับลูกตุ้มเลย ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน"
"เดี๋ยวไปหาให้เอาไหม" หมวดเด่นอาสา ต่อมตำรวจของเขาเริ่มทำงานอีกครั้ง แต่พุทรารีบส่ายหน้า
"ไม่ต้องเลยหมวด ไม่ต้องเลย บอกแล้วไง ว่าให้ถอดชุดตำรวจ" พุทราว่า "ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เดี๋ยวเขาก็มาเองแหละ คงไปดูอะไรแถวนี้ละมั้ง"
พุทราว่าแล้วทำท่าจะหอบถุงพลุเดินไป แต่หมวดเด่นรีบเรียกเอาไว้ก่อน "แล้วนี่คุณจะไปไหน"
"อ้าว ก็จะไปหาที่จุดเล่นน่ะสิ ก็หมวดบอกเองไม่ใช่หรอ ว่าจุดในที่ชุมชนมันอันตราย"
"แต่คุณเองก็ต้องระวังอันตรายด้วยนะ เอางี้ เดี๋ยวผมไปด้วย" หมวดเด่นว่า เตรียมพร้อมปฏิบัติงาน แต่พุทรารีบห้าม
"หมวดจะไปในฐานะอะไร ถ้าไปในฐานะตำรวจ ชั้นไม่ให้ไป" แน่ะ ชาวบ้านสั่งตำรวจได้ด้วยเว้ย ทำเอาหมวดเด่นงงเลยทีเดียว
"แต่ถ้าหมวดไปในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่งที่มาเที่ยวงานวัด ชั้นให้ไปได้"
หมวดเด่นนิ่งไปนิด ก่อนจะมองหน้าพุทราแล้วพยักหน้า "ตกลง ผมจะถอดชุด เอ้ย ไม่ใช่ ผมจะเป็นคนธรรมดาแล้วล่ะ คืนนี้น่ะ"
พุทราฟังแล้วยิ้มนิดๆ เดินออกไปทางหลังวัด หมวดเด่นก็เดินตามพร้อมเต้นเสต็ปไปด้วย | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Thu Apr 05, 2007 11:08 pm | |
| ตรัยกับเซเรน่าเดินมาหาหมิงที่ร้านขายลูกชิ้นปิ้ง แต่ก็ไม่มี เอ ก็หมิงบอกว่าจะมาซื้อลูกชิ้นปิ้งร้านนี้นี่นา
"คุณหมิงอยู่ไหนเนี่ย" ตรัยเปรยออกมาลอยๆ
"คุณหมิงอ่ะหรอ ก็อยู่ที่เมืองจีนน่ะสิ" เซเรน่าหันมาทำหน้าทะเล้นตอบ ตรัยฟังแล้วอึ้งไป ก่อนจะส่ายหน้า
"ตอบอย่างนี้มันน่า.."
"น่าอะไร..." เซเรน่าหันมาถาม ตรัยมองหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ในใจคิดอะไรไม่รู้ยิ้มๆ แต่พูดออกมาว่า
"ไม่รู้สิ ไม่อยากบอกตอนนี้" เซเรน่าฟังแล้วทำเป็นส่ายหน้าบ้าง "พวกคนแก่ๆนี่เข้าใจยากจริงๆ"
"เธอว่าใครแก่" ตรัยขมวดคิ้ว แต่เซเรน่าทำหน้าไก๋ หันไปมองโน่นนี่ไม่สนใจคำพูดของตรัย
และเพราะกวาดสายตาไปรอบๆ นั่นเอง เซเรน่าถึงเจออะไรเข้าบางอย่าง ถึงกับชะงัก แล้วหันมากระตุกแขนตรัยอย่างลืมตัว
"หมอต่าย นั่นอะไรอ่ะ" พูดแล้วชี้มือไปทางลานลั่นทมค่อนไปทางหลังวัด ตรัยมองตาม
"อะไรหรอ ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย"
"มีสิ ทำไมจะไม่มี เราไปดูกันเหอะ" เซเรน่าชวน แต่ตรัยค้าน "อย่าไปเลย ตรงนั้นมันมืด ไม่รู้มีอันตรายอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวลิเกก็จะเล่นแล้วนะ"
"ก็ชั้นอยากรู้นี่ว่าเมื่อกี้มันคืออะไร ไม่รู้ล่ะ ถ้าหมอต่ายไม่ไป ชั้นไปเองก็ได้" เซเรน่าว่าแล้วทำหน้าเชิด ตรัยส่ายหน้าอีกครั้ง เริ่มดุ
"ทำไมเป็นคนอย่างนี้เนี่ย เตือนอะไรทำไมไม่ฟัง โตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ"
"ก็จะเป็นอย่างนี้จะทำไม ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องมายุ่งเลย" เซเรน่าหน้าง้ำลงเรื่อยๆ
"ก็บอกแล้วว่ามันอันตรายจะไปได้ยังไง อยากหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเองหรือไง"
"ไม่เห็นว่ามันจะอันตรายตรงไหนเลย ก็แค่ไปดูนิดเดียวไม่เห็นมันจะเป็นอะไร ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ง้อหรอก ไปคนเดียวก็ได้" ว่าแล้วก็เชิดหน้า เดินลูกโป่งปลิวออกไปทันที ตรัยจะห้ามก็ห้ามไม่ทัน ได้แต่มองตามไปด้วยความเหนื่อยใจ
เซเรน่าเดินออกมาด้วยความฉุนนิดๆ ดูสิ จะมีแก่ใจตามมาก็ไม่มี หันไปมองลูกโป่งที่ผูกสายข้อมือไว้แล้วก็ยิ่งหน้าบึ้งลงไปอีก แล้วก็บอกว่ากลัวหลง ทียังงี้ปล่อยให้มาคนเดียว
เดินมาเรื่อยๆ จนถึงหลังวัด บริเวณลานลั่นทมที่ค่อนข้างมืด เซเรน่ามองไปรอบๆ เพื่อมองหาสิ่งแปลกประหลาดที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ แต่ตอนนี้ มันหายไปแล้ว
เอ หายไปไหนแล้วนะ เซเรน่าคิดอยู่ในใจ พลันก็ได้ยินเสียงอะไรไม่รู้ทางทิศหลังป่าช้า รีบมองไปทางนั้นก็เห็น....เงาดำ....
เงาดำที่รูปลักษณะแล้ว....ไม่น่าจะใช่คน....และคนอะไรจะมาอยู่ในป่าช้า.......
เซเรน่าตาเบิกโพลง ขยับจะวิ่งแต่ก้าวขาไม่ออก ต้องค่อยใช้มือตัวเองจับขาทีละข้างออกมา แล้วหันหลัง หลับหูหลับตาวิ่งไม่คิดชีวิต... | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Thu Apr 05, 2007 11:11 pm | |
| แต่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ไปปะทะเข้ากับอกของใครคนหนึ่งอย่างแรง จนเกิดปฏิกริยาสะท้อนกลับจะเซล้ม แต่คนๆคนนั้นคว้าแขนได้ทัน
"อ้าว เป็นอะไร หลับหูหลับตาวิ่ง" เสียงเขาคนนั้นดังขึ้น เซเรน่าจึงลืมตาขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นตรัยก็รีบละล่ำละลักบอกทันที
"หมอต่าย ชั้นเห็นผีอ่ะ" พูดแล้วชี้มือไปที่ป่าช้าโดยไม่ยอมหันกลับไปมอง
"ผีที่ไหน ผีมีในโลกที่ไหนเล่า" ตรัยว่า มองเซเรน่าที่ยังหน้าซีดอยู่แล้วยิ้มนิดๆ "คิดเป็นตุเป็นตะไปได้ เห็นชัดแล้วหรอว่าเป็นผีน่ะ"
"ก็มันเป็นเงาดำๆ รูปร่างเหมือนไม่ใช่คนน่ะ"เซเรน่ายังไม่หายเสียงสั่น
"แค่เงาดำๆ ก็รู้แล้วหรอว่าไม่ใช่คน บางทีอาจจะเป็นสับปะเหร่อก็ได้ สับปะเหร่ออยู่ในป่าช้าก็ไม่แปลกนี่" ตรัยยังพูดอย่างมีเหตุผล ทำให้เซเรน่านิ่งไป ก่อนจะถามเบาๆ
"จริงหรอ"
"จริงสิ" ตรัยตอบ ตามองไปที่สายลูกโป่งที่ข้อมือของคนตรงหน้า แล้วเลื่อนสายตามามองมือที่จับอยู่ เซเรน่ามองตาม ตรัยจึงรีบปล่อยทันที
"รีบเดินหนีลูกโป่งปลิวมาเชียวนะ นึกว่าจะตามไม่ทันซะแล้ว"
"ก็ใครจะไปรู้ นึกว่าจะไม่ตามมา" เซเรน่าว่าแล้วเชิดหน้าใส่
"ก็บอกแล้วไง ว่าถ้าหลง ผมคงต้องหาจนเจอ" ตรัยว่าแล้วยิ้มนิดๆ เซเน่าหันมามองตา มองไปมองมาแอบแลบลิ้นใส่เพราะทำหน้าไม่ถูก
"อ้าว แลบลิ้นใส่ทำไม เขาห้ามแลบลิ้นในวัดไม่รู้หรอ" ตรัยว่าหน้าตาเฉย ทำเอาเซเรน่างง "จริงหรอ ทำไมอ่ะ"
"อ้าว ถ้าแลบลิ้นใส่ ผีจะมาหา" ตรัยยังพูดต่อไปด้วยสีหน้าเรียบ เซเรน่าใจหายวาบ ละล่ำละลักถามทันที
"จริงหรอเนี่ย แล้วทำไงอ่ะ หมอต่าย"
"จะทำไงได้ ก็คงต้องยืนรอรับผีอยู่ตรงนี้แหละ" ตรัยยังพูดต่อไปเหมือนไม่เดือดร้อน แต่คนตรงหน้านี่สิ หันรีหันขวาง เดือดร้อนนักหนา
"ฮือๆ จริงๆ หรอเนี่ย" เซเรน่าจะร้องไห้ "แล้วจะทำไงดีอ่ะ ทำไงดี"
"อือ ไม่รู้สิ งานนี้ก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน" ตรัยว่าแล้วทำท่าจะเดินหนี เซเรน่ารีบร้องเรียกทันทีปากคอสั่น
"หมอต่ายจะไปไหนอ่ะ อย่าไปนะ แล้วชั้นจะทำยังไงอ่ะ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะ"
ตรัยหันมามอง "ถ้าจะให้อยู่เป็นเพื่อน ก็สัญญาก่อน ต่อไปนี้จะไม่กวน สอนอะไร เตือนอะไรก็ต้องเชื่อ อย่าเล่นอะไรแผลงๆ อย่าซนให้มาก อย่า..."
"เดี๋ยวๆ.." เซเรน่ารีบขัดขึ้นทันที "ทำไมยาวจังอ่ะ"
"แล้วก็อย่าเถียงแบบนี้อีก ถ้าไม่รับปากก็ไปละนะ" ตรัยว่าแล้วทำท่าจะเดินไปจริงๆ เซเรน่าจึงรีบรับปากทันที
"โอเคๆ ชั้นตกลงจะทำตามที่นายบอกทุกอย่าง พอใจยัง"
"อืมๆ ดีมาก" ตรัยหันมายิ้มนิดๆ "ทีนี้กลับกันได้หรือยัง"
"อ้าว กลับได้หรอ"
"หรือจะอยู่รอให้ผีมาหาล่ะ" ตรัยว่าทำหน้าตาเฉยๆ แต่เซเรน่าหน้าตื่น รีบมองซ้ายขวาทันที "บ้าหรอ ไม่เอาอ่ะ"
"ไม่เอาก็ไป...เอ๊ะ เดี๋ยวนะๆ" ตรัยขยับจะเดินกลับอยู่แล้วเชียว หางตาเหลือบไปเห็นเงาดำที่ป่าช้า จึงหยุดเขม้นมอง
"นั่นไง นายก็เห็นเหมือนกับชั้นใช่ไหมล่ะ ชั้นบอกแล้ว" เซเรน่ารีบบอก แต่ไม่ยอมหันมามอง "บอกแล้วว่าผีจริงๆ"
"เหลวไหลน่า ผีมีในโลกที่ไหน นั่นมันต้องเป็นคนแน่ๆ เลย มาๆ เราไปดูให้เห็นจริงกันดีกว่า" ตรัยว่าแล้วคว้ามือเซเรน่าเดินลูกโป่งปลิวเข้าไปในป่าช้าทันที มีเซเรน่าส่งเสียงร้องดังลั่น
"ไม่เอาๆ ชั้นแลบลิ้นในวัด เดี๋ยวผีมาหาชั้น ชั้นไม่ไป บอกว่าไม่ไปปปปปป" แต่เสียงร้องของเซเรน่าไม่ทำให้เธอเป็นอิสระได้ สุดท้ายก็ต้องยอมเดินเข้าไปในป่าช้าจนได้ | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:12 am | |
| แต่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ไปปะทะเข้ากับอกของใครคนหนึ่งอย่างแรง จนเกิดปฏิกริยาสะท้อนกลับจะเซล้ม แต่คนๆคนนั้นคว้าแขนได้ทัน
"อ้าว เป็นอะไร หลับหูหลับตาวิ่ง" เสียงเขาคนนั้นดังขึ้น เซเรน่าจึงลืมตาขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นตรัยก็รีบละล่ำละลักบอกทันที
"หมอต่าย ชั้นเห็นผีอ่ะ" พูดแล้วชี้มือไปที่ป่าช้าโดยไม่ยอมหันกลับไปมอง
"ผีที่ไหน ผีมีในโลกที่ไหนเล่า" ตรัยว่า มองเซเรน่าที่ยังหน้าซีดอยู่แล้วยิ้มนิดๆ "คิดเป็นตุเป็นตะไปได้ เห็นชัดแล้วหรอว่าเป็นผีน่ะ"
"ก็มันเป็นเงาดำๆ รูปร่างเหมือนไม่ใช่คนน่ะ"เซเรน่ายังไม่หายเสียงสั่น
"แค่เงาดำๆ ก็รู้แล้วหรอว่าไม่ใช่คน บางทีอาจจะเป็นสับปะเหร่อก็ได้ สับปะเหร่ออยู่ในป่าช้าก็ไม่แปลกนี่" ตรัยยังพูดอย่างมีเหตุผล ทำให้เซเรน่านิ่งไป ก่อนจะถามเบาๆ
"จริงหรอ"
"จริงสิ" ตรัยตอบ ตามองไปที่สายลูกโป่งที่ข้อมือของคนตรงหน้า แล้วเลื่อนสายตามามองมือที่จับอยู่ เซเรน่ามองตาม ตรัยจึงรีบปล่อยทันที
"รีบเดินหนีลูกโป่งปลิวมาเชียวนะ นึกว่าจะตามไม่ทันซะแล้ว"
"ก็ใครจะไปรู้ นึกว่าจะไม่ตามมา" เซเรน่าว่าแล้วเชิดหน้าใส่
"ก็บอกแล้วไง ว่าถ้าหลง ผมคงต้องหาจนเจอ" ตรัยว่าแล้วยิ้มนิดๆ เซเน่าหันมามองตา มองไปมองมาแอบแลบลิ้นใส่เพราะทำหน้าไม่ถูก
"อ้าว แลบลิ้นใส่ทำไม เขาห้ามแลบลิ้นในวัดไม่รู้หรอ" ตรัยว่าหน้าตาเฉย ทำเอาเซเรน่างง "จริงหรอ ทำไมอ่ะ"
"อ้าว ถ้าแลบลิ้นใส่ ผีจะมาหา" ตรัยยังพูดต่อไปด้วยสีหน้าเรียบ เซเรน่าใจหายวาบ ละล่ำละลักถามทันที
"จริงหรอเนี่ย แล้วทำไงอ่ะ หมอต่าย"
"จะทำไงได้ ก็คงต้องยืนรอรับผีอยู่ตรงนี้แหละ" ตรัยยังพูดต่อไปเหมือนไม่เดือดร้อน แต่คนตรงหน้านี่สิ หันรีหันขวาง เดือดร้อนนักหนา
"ฮือๆ จริงๆ หรอเนี่ย" เซเรน่าจะร้องไห้ "แล้วจะทำไงดีอ่ะ ทำไงดี"
"อือ ไม่รู้สิ งานนี้ก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน" ตรัยว่าแล้วทำท่าจะเดินหนี เซเรน่ารีบร้องเรียกทันทีปากคอสั่น
"หมอต่ายจะไปไหนอ่ะ อย่าไปนะ แล้วชั้นจะทำยังไงอ่ะ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะ"
ตรัยหันมามอง "ถ้าจะให้อยู่เป็นเพื่อน ก็สัญญาก่อน ต่อไปนี้จะไม่กวน สอนอะไร เตือนอะไรก็ต้องเชื่อ อย่าเล่นอะไรแผลงๆ อย่าซนให้มาก อย่า..."
"เดี๋ยวๆ.." เซเรน่ารีบขัดขึ้นทันที "ทำไมยาวจังอ่ะ"
"แล้วก็อย่าเถียงแบบนี้อีก ถ้าไม่รับปากก็ไปละนะ" ตรัยว่าแล้วทำท่าจะเดินไปจริงๆ เซเรน่าจึงรีบรับปากทันที
"โอเคๆ ชั้นตกลงจะทำตามที่นายบอกทุกอย่าง พอใจยัง"
"อืมๆ ดีมาก" ตรัยหันมายิ้มนิดๆ "ทีนี้กลับกันได้หรือยัง"
"อ้าว กลับได้หรอ"
"หรือจะอยู่รอให้ผีมาหาล่ะ" ตรัยว่าทำหน้าตาเฉยๆ แต่เซเรน่าหน้าตื่น รีบมองซ้ายขวาทันที "บ้าหรอ ไม่เอาอ่ะ"
"ไม่เอาก็ไป...เอ๊ะ เดี๋ยวนะๆ" ตรัยขยับจะเดินกลับอยู่แล้วเชียว หางตาเหลือบไปเห็นเงาดำที่ป่าช้า จึงหยุดเขม้นมอง
"นั่นไง นายก็เห็นเหมือนกับชั้นใช่ไหมล่ะ ชั้นบอกแล้ว" เซเรน่ารีบบอก แต่ไม่ยอมหันมามอง "บอกแล้วว่าผีจริงๆ"
"เหลวไหลน่า ผีมีในโลกที่ไหน นั่นมันต้องเป็นคนแน่ๆ เลย มาๆ เราไปดูให้เห็นจริงกันดีกว่า" ตรัยว่าแล้วคว้ามือเซเรน่าเดินลูกโป่งปลิวเข้าไปในป่าช้าทันที มีเซเรน่าส่งเสียงร้องดังลั่น
"ไม่เอาๆ ชั้นแลบลิ้นในวัด เดี๋ยวผีมาหาชั้น ชั้นไม่ไป บอกว่าไม่ไปปปปปป" แต่เสียงร้องของเซเรน่าไม่ทำให้เธอเป็นอิสระได้ สุดท้ายก็ต้องยอมเดินเข้าไปในป่าช้าจนได้ | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:15 am | |
| ในขณะที่ลานลั่นทมด้านมืดอีกด้านหนึ่งนั้น หมิงกับบุญก่อก็สังเกตเห็นสิ่งประหลาดในป่าช้าเช่นกัน
"เงาอะไรอ่ะ พี่ก่อ" หมิงหันมาถาม สีหน้าหวาดกลัว
"ไม่รู้เหมือนกัน มันอาจจะเป็นเงาต้นไม้ หรือไม่ก็ตาฝาดไปเองละมั้ง" บุญก่อตอบสีหน้าเรียบเฉย แต่หมิงส่ายหน้า "ไม่ใช่อ่ะพี่ก่อ หมิงดูแล้วมันเหมือนคน แต่ไม่ใช่คนอ่ะ"
"เหมือนคนแต่ไม่ใช่คน แล้วมันจะอะไร" บุญก่อหัวเราะหึหึ
"อะไรก็ช่าง แต่เราไปจากที่นี่กันเถอะ พี่ก่อ นะ" หมิงหันมาชวน บุญก่อเห็นสีหน้าของคนตรงหน้าแล้ว ก็พยักหน้า "ก็ได้ ไปก็ได้ สงสัยลุงต้อยคงไม่ผ่านมาทางนี้แล้วล่ะ"
สองคนทำท่าจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้น แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาก็ได้ยินเสียงร้องดังลั่น ดังขึ้นซะก่อน
"ไม่เอาๆ ชั้นแลบลิ้นในวัด เดี๋ยวผีมาหาชั้น ชั้นไม่ไป บอกว่าไม่ไปปปป"
หมิงชะงักก่อนจะหันไปหาบุญก่อ "นี่มันเสียงเซร่านี่ พี่ก่อ เสียงดังมาจากทางป่าช้าเนี่ย"
บุญก่อพยักหน้า "อืม เสียงเหมือนจะต้องการความช่วยเหลือนะ"
"จริงด้วยพี่ก่อ งั้นหมิงต้องไปช่วยเซร่า" พูดแล้วทำท่าจะวิ่งออกไปทางป่าช้า แต่บุญก่อรีบคว้ามือไว้ "เดี๋ยวก่อน...."
หมิงหันมามองหน้า สบดวงตาอันสื่อความหมายยากของบุญก่อ "ลืมไปแล้วหรอ ว่ายังมีพี่ เอ้ย ผมอยู่"
"หมิงไม่กล้าขอให้พี่ช่วยหรอก" หมิงว่าเบาๆ
"ทำไม กลัวผมมากหรอ" บุญก่อมองหน้านิ่งๆ หมิงพยักหน้าไม่ตอบอะไร บุญก่อจึงยักไหล่แบบติสแตก
"ผมเคยดุอะไรหมิงหรอ"
"พี่ไม่ดุ แต่ดวงตาของพี่มันดุ มองมาทีไรก็เห็นทำตาดุทุกที" หมิงว่าอ่อยๆ
"สังเกตขนาดนั้นเลยหรอ เฮ้อ" บุญก่อว่าแล้วถอนหายใจ "คนอย่างผม ถ้าไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ หางตาก็ยังไม่แลเลยด้วยซ้ำ คิดเอาเองแล้วกัน"
หมิงเงียบไป ค่อยๆ เหลือบตามองบุญก่อก็เห็นเขามองมาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเช่นเดิม
"ไป ไปช่วยเซร่ากัน" แล้วบุญก่อก็เอ่ยชวน หมิงจึงหยุดคิดเรื่องของตัวเอง แล้วเดินตามบุญก่อเข้าไปในป่าช้า หาที่มาของเสียงเซเรน่าทันที | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:16 am | |
| พัชราหันไปทางป่าช้าอย่างสงสัย ทำให้ทุยหันไปมองตาม
"มีอะไรหรอ"
"ชั้นเห็นอะไรไม่รู้อยู่ในป่าช้า" ด้วยความตกใจ ทั้งสองลืมปั้นปึ่งใส่กัน ทุยหันไปมอง และหางตาก็เห็นเงาดำนั้นจริงๆ
"นั่นมัน....อะไรกันน่ะ" ทุยพูดออกมาเบาๆ
บริเวณที่ทั้งสองอยู่นั้นเป็นส่วนของโบสถ์พระประธานด้านใน ที่ห่างไกลจากศาลาวัดด้านนอกที่กำลังมีงานวัดอยู่ แต่ค่อนมาทางหลังวัดที่อยู่ใกล้ป่าช้า
ขณะที่ทั้งสองกำลังยืนงงกับสิ่งที่ตาเห็นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องออกมาจากป่าช้า
""ไม่เอาๆ ชั้นแลบลิ้นในวัด เดี๋ยวผีมาหาชั้น ชั้นไม่ไป บอกว่าไม่ไปปปป"
ทั้งสองหันมามองหน้ากันทันที
"เสียงใครน่ะ" พัชราถามขึ้นมา แต่ทุยส่ายหน้า "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" แล้วทุยก็ทำท่าจะวิ่งเข้าไปในป่าช้า พัชรารีบเรียกเอาไว้
"นั่นนายจะไปไหน"
"ผมจะไปช่วยเค้า ท่าทางเค้าต้องการความช่วยเหลือ" ทุยหันมาบอก พัชรามองหน้าทุยแล้วว่า "งั้นชั้นไปด้วย"
ทุยชะงัก หันมามองสบตาพัชรา "คุณจะไปทำไม เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ อาจจะมีอันตรายก็ได้ คุณอยู่ที่นี่ดีกว่า"
"จะให้ชั้นรออยู่ที่นี่ชั้นทำไม่ได้" พัชราว่า "ทีนายยังไปได้เลย..."
"อ๋อๆ..." ทุยว่าแล้วยิ้มนิดๆ "นี่คุณห่วงผมหรอ...ใช่ไหม"
พัชราฟังแล้วเมินหน้าหนีทันที "อย่ามาตู่ ชั้นยังไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นเลย แล้วนี่อย่ามัวพูดอยู่เลย จะรีบไปช่วยคนก็ไปสิ" ประโยคท้ายเร่ง
"นี่คุณจะไปจริงๆ หรอ ไม่กลัวอันตรายหรอ"
"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด" พัชราว่า แม้ในใจจะรู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน
"ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะรับผิดชอบชีวิตคุณเอง" ทุยบอกเบาๆ "แล้วคุณ...ก็ต้องรับผิดชอบความรู้สึกผมด้วยนะ"
พูดจบ ทุยมองสบตาคนตรงหน้า เห็นพัชรานิ่งอึ้งไป ก็พยักหน้าให้ แล้วพากันวิ่งเข้าไปในป่าช้าอย่างรีบเร่ง พัชราแอบมองคนที่วิ่งมาข้างๆ แม้จะรู้สึกกลัว แต่เมื่ออยู่ข้างๆ คนๆ นี้ กลับอุ่นใจขึ้นอย่างประหลาด | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:17 am | |
| แมนขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดบริเวณที่จอดรถหน้าศาลาวัด แต่ปรากฏว่าคืนนี้เป็นคืนแรก ผู้คนจากไหนไม่รู้มากันมืดฟ้ามัวดิน หาที่จอดไม่ได้ เลยจำต้องขับมาจอดที่ลานลั่นทม เนื่องจากว่ามันโล่งดี ไม่มีรถสักคัน
จอดรถเรียบร้อย บริทนีย์ก็ลงมา มองไปรอบๆ แล้วบ่นอุบ
"มาจอดทำไมตรงนี้เนี่ย น่ากลัวจะตาย"
แมนถอดหมวกกันน็อคออก แล้วทำหน้าเบื่อ "ก็ไม่เห็นหรือไง ว่าหน้าศาลามันไม่มีที่จอดอ่ะ ที่ตรงนี้ออกจะโล่ง ไม่เห็นจะมีอะไรเลย"
"ไม่มีอะไรได้ไง" บริทนีย์เถียง พยักเพยิดให้ดูสถานที่ที่อยู่ลึกลงไปในลานลั่นทม "เห็นไหมว่านั่นอะไร นั่นมันป่าช้าไม่ใช่หรอ"
แมนมองตาม แล้วก็ต้องเขม้นมองเมื่อเห็นอะไรบางอย่าง "บริทนีย์ นั่นยายเป๋อนี่นา"
"เฮ้ย ใช่หรอ ยายเป๋อจะมาได้ไง ก็แกเข้าบ้านนอนไปแล้วนี่" บริทนีย์ว่าแล้วเข้ามามองด้วยคน
"ยายเป๋อจริงๆ จำได้ว่าแกไว้ผมยาวๆ ตัวผอมๆ อย่างนี้แหละ" แมนหันมาตอบ หันกลับมาอีกทีก็ต้องร้อง "เฮ้ย ยายเป๋อแกเป็นอะไร ล้มลงไปแล้วอ่ะ"
"จริงด้วย ล้มแล้วไม่ลุกด้วย แกเป็นอะไรไปหรือเปล่า"
"เราไปดูกันหน่อยไหม" แมนหันมาชวน แต่บริทนีย์ทำหน้ากลัวๆ
"จะดีหรอ นั่นมันป่าช้านะชั้นกลัว"
"เฮ้ย เดี๋ยวเผื่อแกเป็นอะไรหนัก ไม่มีใครช่วยแก แกเกิดตายไปทำไง" แมนว่าจริงจัง
"เฮ้ย อย่ามาพูดเรื่องตายได้ไหม แต่ก็จริงของนายนะ ถ้ายายเป๋อตายไป เราจะต้องบาปหนักแน่ๆ เลยอ่ะ"
"งั้นไป เราไปช่วยยายเป๋อกัน" แมนชวน บริทนีย์ก็พยักหน้า วิ่งเข้าไปในป่าช้าตรงตำแหน่งที่ยายเป๋อล้มลงไปเมื่อกี้ แต่เมื่อมาถึง กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตใดอยู่บริเวณนั้นเลย
แมนกับบริทนีย์มองหน้ากันด้วยความงง
"เอ๊ะ ยายเป๋อหายไปไหน ก็เมื่อกี้ยังล้มอยู่ตรงนี้เลยอ่ะ" บริทนีย์พูดขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ในบริเวณป่าช้าก็ค่อนข้างมืดได้แสงสว่างเพียงเล็กน้อยจากดวงไฟของลานลั่นทมเท่านั้นเ อง แต่ถ้าเดินเข้าไปในป่าช้าลึกมากกว่านี้จะยิ่งมืดสนิท
"ใช่ๆ เมื่อกี้แกล้มอยู่ตรงนี้" และรอบๆ"แมนพูดแล้วมองไปรอบบริเวณ "รอบๆ ก็ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของยายเป๋อเลย"
แมนหันมาสบตากับบริทนีย์
"นี่มันหมายความว่ายังไง" บริทนีย์ถามเบาๆ เสียงสั่น
ยังไม่ทันที่แมนจะตอบ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของคนแก่ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดของป่าช้า
"ฮิฮิ....ฮิฮิ.....ฮิฮิ" | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:18 am | |
| "ฮิฮิ....ฮิฮิ.....ฮิฮิ"
บริทนีย์สะดุ้ง เกาะแขนแมนแน่น "เฮ้ย แมนๆ เสียงอะไรอ่ะ"
แมนเองก็หวาดหวั่นไม่น้อย กวาดสายตาไปโดยรอบก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น "เราหูฝาดกันไปหรือเปล่า"
"ฝาดบ้าอะไรล่ะ ได้ยินกันตั้งสองคนเนี่ยนะ" บริทนีย์เสียงแหว มองไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัว "แมน ชั้นไม่อยู่แล้วนะ ชั้นกลัว เราไปกันเหอะ"
บริทนีย์ว่าแล้วคว้าแขนแมนหลับหูหลับตาเดินออกไป แต่แมนยื้อไว้
"เฮ้ย ไม่ใช่ทางนี้ นี่มันทางเข้าป่าช้าลึกลงไปอีก ทางออกทางนี้" แมนชี้ไปอีกทาง แต่บริทนีย์ส่ายหน้า "ไม่ใช่ๆ ทางนี้ต่างหาก"
"เธอรู้ได้ยังไงว่าทางนั้น มันมืดจะตาย"
บริทนีย์นิ่งไป ก่อนจะว่า "ไม่รู้ล่ะ ทางไหนก็ไปมันสักทางเหอะ ชั้นไม่ไหวแล้ว"
"งั้น ไปทางนี้นะ" แมนว่า แล้วชี้มือไปทางขวา บริทนีย์พยักหน้า แล้วทั้งสองก็เตรียมจะออกเดิน
ขณะกำลังจะก้าวขาออกไปนั่นเอง.........เงาดำก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าคนทั้งสอง ในระยะไม่ถึงคืบ.....ไม่ถึงคืบบบบบบบบบ......อะจ๊ากกกกก
ทั้งสองชะงัก สะดุ้ง เบิกตาโพลง....เงาดำนั้นคือยายเป๋อออออออออ....เป็นเงาดำๆทั่วทั้งร่างกาย ร่างกายผอมๆ ที่อยู่ในชุดผ้าถุงกับเสื้อคอกระเช้าเก่าๆ นั่น ดูรางเลือนเต็มที่ เหมือนมีม่านหมอกดำๆ ปกคลุมอยู่ ยิ่งผมขาวโพลนที่ยาวสยายอยู่นั่นตัดกับม่านหมอกสีดำจนดูน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นไปอีก ดวงตามีสีแดงเพลิงราวกับดวงตาไฟ และขณะนี้ ยายเป๋อกำลังแสยะยิ้มให้ทั้งสองอีกต่างหาก
"ฮิฮิ....ฮิฮิ....ฮิฮิ" เสียงนั้นเย็นยะเยือกน่ากลัว และเหมือนไม่ใช่เสียงคน
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" บริทนีย์ร้องออกมาทันทีด้วยความตกใจ ยิ่งเห็นยายเป๋อยกไม้ยกมือ ทำท่าเหมือนจะตรงเข้ามาบีบคอด้วยแล้ว บริทนีย์ยิ่งเบิกตาโพลงมากขึ้น หันไปมองแมนก็เห็นเขามองยายเป๋อหน้าซีดแล้วกระตุกมือบริทนีย์วิ่งออกไปทันที
วิ่งออกมาโดยไม่รู้ทิศทางจากทางที่ออกป่าช้า ดันเข้าไปทางป่าช้าที่ลึกเข้าไปอีกโดยไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้ทั้งคู่ไม่คิดอะไรแล้ว พากันวิ่งสุดชีวิต
หันไปมองข้างหลังก็เห็นยายเป๋อเดินตามมา....แต่ทำไม....ทำไมเดินเร็วจังหว่า เดินเหมือนจะลอยได้เลย ตามมาเกือบจะทันอยู่แล้ว
บริทนีย์กระตุกแขนแมน "แมนๆ ยายเป๋อจะตามมาทันอยู่แล้ว"
แมนหันไปมองสีหน้าหวาดหวั่น เหลียวซ้ายแลขวา หันไปเห็นต้นมะม่วงขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า ก็ตัดสินใจบอกบริทนีย์ "บริทนีย์ปืนขึ้นไปบนต้นมะม่วงต้นนั้นเดี๋ยวนี้เลย"
บริทนีย์หันมามองหน้าแมน "ว่าไงนะ"
"อย่าเพิ่งถามเลย ปืนต้นมะม่วงเดี๋ยวนี้" แมนสั่งอย่างรีบเร่ง และในเวลาชั่วอึดใจ แมนก็ช่วยดันตัวบริทนีย์ขึ้นไปอยู่บนกิ่งมะม่วงค่อนข้างสูง แล้วตัวเองก็ปืนตามขึ้นไป
พร้อมๆ กับที่ยายเป๋อเดินตามมาหยุดอยู่ที่ใต้ต้นมะม่วงพอดี...ยายเป๋อทำท่ามองหาไปรอบๆและส่ งเสียง ฮิฮิ...ฮิฮิ ตลอดเวลา
แมนจุ๊ปากให้บริทนีย์เงียบเสียง ต่างคนต่างมองลงไปที่ยายเป๋ออย่างหวาดกลัว...หัวใจแทบหยุดเต้น ภาวนาแต่ว่า อย่าให้ยายเป๋อรู้เลยว่า บนกิ่งมะม่วงนั้นมีทั้งสองอยู่ | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:19 am | |
| ตรัยลากเซเรน่าเข้ามาในป่าช้า แล้วมองไปรอบๆ
"เห็นไหม ผีที่ไหนมีล่ะ หยุดร้องได้แล้ว" ตรัยหันมาดุนิดๆ เซเรน่าหยุดร้องทันควัน มองไปรอบๆ "แต่เมื่อกี้มันมีเงาดำจริงๆ นะ เมื่อกี้นายก็เห็นไม่ใช่หรอ"
"ก็เพราะเมื่อกี้เห็นน่ะสิ ถึงอยากจะมาดู แต่เมื่อมาดูแล้วไม่มีอะไร ก็แสดงว่าตาฝาดไปเอง" ตรัยว่าง่ายๆ
"สรุปง่ายจังนะ"
"โลกนี้มีเรื่องยากมากพออยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเพิ่มเรื่องนี้เข้าไปด้วยเลย" พูดแล้วหันไปมองเซเรน่า เห็นฝ่ายนั้นกำลังเล่นลูกโป่งอยู่ก็ชวน "ไป กลับกันเถอะ"
"น่าจะกลับได้ตั้งนานแล้ว" เซเรน่าบ่นอุบ กำลังจะสะบัดตัวลูกโป่งปลิว ก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นลั่นป่าช้า
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
เซเรน่าหันมามองตรัย "นั่นมันเสียงบริทนีย์นี่นา หมอต่าย"
"งั้นหรอ" ตรัยทำหน้างง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจ "แล้วทำไมต้องร้องขนาดนั้นด้วย หรือว่าจะเกิดอันตรายอะไร"
"จริงหรอ หมอต่าย บริทนีย์จะเกิดอันตรายหรอ แล้วเราจะทำยังไงดีอ่ะ" เซเรน่าพูดขึ้นอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
"เสียงร้องเหมือนจะมาจากทางนั้น" ตรัยชี้มือไปตามทางเข้าป่าช้าลึก "เราต้องไปช่วยทางนั้น เดี๋ยวนี้เลย"
เซเรน่ามองทางที่จะเข้าไปอย่างหวาดๆ "นี่มันทางเข้าป่าช้าลึกนี่ มืดตื๊ดตื๋อเลย แล้วเราจะมองเห็นหรอ"
"เห็นหรือไม่เห็นเราก็ต้องเข้าไป เธอพร้อมหรือยัง" ตรัยหันมาถาม เซเรน่าทำหน้าแหย ถึงแม้จะกลัว แต่ความเป็นห่วงเพื่อนมีมากกว่า รู้ทั้เงรู้ว่า เข้าไปแล้วต้องเจออะไรที่ไม่ธรรมดาแน่ แต่ก็ตัดสินใจไป กำลังจะพูดออกไปแล้วเชียว
พลันก็มีมือๆ หนึ่งเย็นๆ มาสะกดที่หัวไหล่อย่างแผ่วเบา...เซเรน่าสะดุ้งเฮือก....ขนลุกเกรียววววว
"กรี๊ดดดดดดดดด หมอต่าย" | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:20 am | |
| "กรี๊ดดดดดดดดด หมอต่าย"
เซเรน่าร้องเรียกตรัยทันที "อะไรไม่รู้มาสะกิดหลังชั้นอ่ะ" ร้องได้เท่านั้นแล้วรีบวิ่งไปแอบหลังตรัยทันที
"เดี๋ยว เธอใจเย็นๆ" ตรัยหันมาปลอบ ก่อนจะพูดเบาๆ "ดูให้ดีๆ ก่อนสิ ว่าใครสะกิดหลังเธอ"
"ไม่เอา ชั้นไม่ดู" เซเรน่าส่ายหน้าอย่างแรงอยู่ข้างหลังตรัย ตรัยได้ยินก็แอบยิ้ม "เอ้า บอกให้ดูก็ดูซะหน่อยสิ"
"ไม่ดูๆ บอกว่าไม่ดู" เซเรน่าไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา หลับตาปี๋ ท่าทางอาการหนักจนคนที่สะกิดต้องเรียกเบาๆ
"เซร่า นี่หมิงเอง" เสียงที่คุ้นเคยนั้น ทำให้เซเรน่าหยุดอาการหวาดกลัวนั้น "หมิงเองที่สะกิดน่ะ ลืมตาขึ้นมาดูสิ"
เซเรน่าตัดสินใจลืมตาขึ้นดู ก็เห็นหมิงยืนอยู่กับบุญก่อกระเป๋ารถ
"อ้าว หมิงจริงๆ หรอเนี่ย" เซเรน่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ "โธ่ แล้วก็มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตกใจแทบแย่"
"ก็เข้ามาเพราะเสียงเซร่านั่นแหละ เมื่อกี้เธอร้องทำไม" หมิงถาม เซเรน่าหันไปมองตรัยทันที ก็เห็นเขายิ้มนิดๆ จึงว่าเก้อๆ
"ก็ ชั้นกลัวอ่ะ"
"กลัวแล้วเข้ามาในป่าช้าทำไม" บุญก่อที่ยืนฟังบทสนทนามานานแล้วเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย "ความคิดขัดแย้งกับพฤติกรรมอยู่นะ"
"เอ่อ...." เซเรน่านิ่งไปก่อนจะรีบตัดบท "เรื่องนั้นช่างก่อนเถอะ แต่เมื่อกี้ได้ยินเสียงบริทนีย์ร้องอ่ะ"
"ใช่ครับ" ตรัยรีบบอก "เสียงร้องมาจากทางโน้น เรากำลังจะไปช่วย"
"งั้นผมไปด้วย" บุญก่ออาสา หมิงก็รีบอาสาเช่นกัน "หมิงก็จะไปด้วยค่ะ"
เซเรน่าเองก็กำลังจะบอกไปด้วยเช่นกัน แต่พลันก็มีมือหนึ่งมาสะกิดหลังเหมือนเดิม
มือเย็นๆ สะกิดหลังวูบๆ เหมือนเมื่อกี้ แต่คราวนี้ไม่ทำให้เซเรน่าตื่นตกใจอีกแล้ว ได้แต่อมยิ้มแล้วว่า
"ฮั่นแน่ หมิง อย่ามาเล่นมุขเดิม ขอร้อง ชั้นรู้หมดแล้วน่ะ"
หมิงหันมามองหน้า "อะไร เล่นอะไร หมิงยังไม่ได้เล่นอะไรเลยนะ"
เซเรน่าชะงัก สังเกตเห็นว่าหมิงเดินมาอยู่ข้างหน้าแล้ว อีกข้างก็เป็นบุญก่อและตรัย อ้าว................
แล้วใครมาสะกิดเราอยู่ข้างหลังล่ะ............ใครล่ะ ในเมื่อทุกคนก็อยู่ข้างหน้าเราหมด...เซเรน่าคิดแล้วค่อยๆ หันไปมองด้านหลัง
หันไปก็ไม่มีอะไร แต่พอจะหันกลับนั่นเอง
พลันก็มีใบหน้าของยายแก่คนหนึ่งโผล่ออกมาใกล้ในระยะไม่ถึงคืบ.....ไม่ถึงคืบบบบบบบ.. อย่างรวดเร็ว
ยายแก่นั้นมีผมยาวขาวโพลน หน้าตาเหี่ยวย่นและดวงตาแดงดังดวงไฟ...แกกำลังแสยะยิ้ม....ฮิฮิ..ฮิฮิ
เซเรน่าสะดุ้งเฮือก ตาเบิกโพลงร้อง "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด"
และไม่พูดพร่ำทำเพลง จะคว้ามือหมิงออกวิ่ง เจ้ากรรมคว้าผิด คว้าข้อมือตรัยวิ่งแน่บไปแทน
ฝ่ายบุญก่อเห็นเหตุการณ์นั้นอย่างชัดเจนแล้ว หนุ่มตีสแตกอย่างเขาถึงกับอึ้ง คุมสติไม่อยู่ รีบร้อนลนลานจนคว้าหมิงขึ้นมาแบกไว้บนหลังแล้ววิ่งออกไปทันที | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:20 am | |
| ยายเป๋อเห็นเหยื่อแตกกระเจิงแล้วก็แสยะยิ้มร้อง "ฮิฮิ...ฮิฮิ...ฮิฮิ" ก่อนจะทำท่าเงี่ยหูฟัง แล้วยิ้มกับตัวเอง
สักพักทุยกับพัชราก็วิ่งเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ แต่กลับไม่พบอะไรเลย
ทุยมองไปรอบๆ ก่อนจะพูดอย่างงงๆ "เมื่อกี้มีเสียงคนหลายคนร้อง แต่ตอนนี้ทำไมไม่มีใครอยู่เลย"
พัชราเองก็งงเช่นกัน "หรือว่าพวกเขาจะวิ่งไปไหนกันแล้ว"
"วิ่งไปไหน และวิ่งทำไม" ทุยมองพัชรา ทั้งสองคนสบตากันอย่างไม่เข้าใจ
"หรือว่า....วิ่งหนีใคร" พัชราเอ่ยออกมาเบาๆ พลันก็มีลมพัดผ่านลำตัวของทั้งสองวูบหนึ่ง เป็นลมที่เย็นยะเยือกอย่างประหลาด เย็นจนพัชราต้องห่อไหล่ด้วยความหนาวขึ้นมาทันที
"คุณเป็นอะไร" ทุยถามเบาๆ พัชรามองหน้าคนตรงหน้าแล้วทำเมินไป "เปล่า..."
ทุยถอนหายใจมองสบตาคนตรงหน้า ฝ่ายพัชราเองก็มองตอบ เงียบกันไปพักหนึ่ง
พลันทั้งสองก็ได้ยินเสียงกระซิบที่หูแผ่วเบา มันเป็นเสียงหัวเราะของคนแก่ "ฮิฮิ...ฮิฮิ...ฮิฮิ..."
แล้วร่างยายแก่ผมขาวโพลนก็โผล่ขึ้นมาระหว่างกลางของคนสองคน ในระยะห่างไม่ถึงคืบ....ไม่ถึงคืบบบบบบ
ยายแก่หันมามองหน้าพัชราแล้วหัวเราะ ฮิฮิ...ฮิฮิ ก่อนจะสลับหันไปมองหน้าทุยแล้วหัวเราะ ฮิฮิ...ฮิฮิ...
สลับไปมา....สลับไปมา...ฮิฮิ.....ฮิฮิ....ฮิฮิ
พัชราเบิกตาโพลง ขนลุกเกรียว ยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก ส่วนทุยนั้น ก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่พยายามรวบรวมสติ แล้วเอื้อมมือมาคว้ามือพัชราบอกเสียงดังว่า
"วิ่งเดี๋ยวนี้ คุณพัชรา วิ่งงงงง..."
พัชราได้สติ หันมามองทุยก็เห็นเขากระตุกแขนพาวิ่ง จึงออกแรงวิ่งอย่างสุดกำลัง หันไปมองด้านหลัง ยายแก่นั่นยังเดินลากเท้าตามมา แต่ตามมาอย่างเร็ว
ทุยพาพัชราวิ่งไปอย่างไม่รู้ทิศทาง เนื่องด้วยป่าช้านั้นมืดสนิท วิ่งไปจนไปเจอกับบึงกลางป่า
พื้นที่สุดแค่บึงน้ำ ในขณะที่หันหลังไป ก็เห็นยายแก่กำลังตามมา....ทุยตัดสินใจ หันมาหาพัชรา
"คุณพัชรา โดดน้ำ"
พัชราหันมามองทุย "ว่าไงนะ..."
ทุยไม่ตอบ เพราะไม่มีเวลาจะตอบอีกแล้ว หันไปมองเห็นยายแก่กำลังตามมา จึงตัดสินใจคว้าข้อมือพัชราแล้วกระโดดลงน้ำทันทีดัง
"ตูมมมมมมม....." | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:21 am | |
| เซเรน่าวิ่งลูกโป่งปลิวคว้ามือตรัยมาด้วย จนมาหยุดเหนื่อยหอบกันที่ใต้ต้นตาล
หันไปพูดกับคนที่จับมือมาด้วย "เฮ้อ หมิง ยายแก่นั่นจะตามเรามาหรือเปล่า"
แต่เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่หมิง "ไม่เห็นแล้วนะ อาจจะไม่ตามมาแล้วก็ได้" เสียงนั้นแม้จะพยายามเก๊กแต่ฟังดูก็รู้ว่าเหนื่อย เซเรน่าหันขวับมามองทันที
"อ้าว นี่นาย...นายมาได้ไง"
"มันต้องมาอ้าวเลย ก็เธอลากข้อมือผมมา ยังจะมางงอีก" ตรัยว่า
"ชั้นไม่ได้ลากข้อมือนายมาสักหน่อย ชั้นจะลากข้อมือหมิงต่างหาก" เซเรน่าว่าแล้วเชิดหน้า "นายเข้ามาแทรกกลางทำไมล่ะ"
"เออ คนเรานี่ก็แปลก ตัวเองลากมาเองแท้ๆ" ตรัยบ่น เซเรน่าหันมาค้อนให้หน่อยหนึ่ง แล้วแอบหลังต้นตาลดูยายแก่ต่อไป
มีมือมาสะกิดที่หลัง เซเรน่าทำท่ารำคาญ ปัดมือนั้นทิ้ง "ไม่ต้องเลย ขี้เกียจพูดด้วยแล้ว"
แต่มือนั้นยังสะกิดต่อ เซเรน่าเริ่มฉุน ปัดมือทิ้งอย่างแรง "อะไรเนี่ย บอกว่าอย่ามายุ่ง...." แล้วก็หันไปมองตรัย กะจะต่อว่าให้เต็มที่ แต่...
ตรัยไม่ได้อยู่ตรงนั้น เซเรน่าสะดุ้ง หันไปมองข้างหน้า ตรัยยืนอยู่ข้างหน้าต่างหาก....แล้วข้างหลัง
ข้างหลังจะเป็นใครนอกจาก.....ยายแก่.....ฮิฮิ....ฮิฮิ....
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด" เซเรน่าร้องลั่น หันมาคว้ามือตรัยวิ่งแน่บลูกโป่งปลิวต่อไปอีก......
วิ่งกันไปจนถึงสวนสมุนไพรข้างป่าช้า มองหาที่หลบ แล้วเห็นสิ่งหนึ่งตั้งประดับอยู่ข้างๆ ต้นโมก
มันคือตุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่มีน้ำ....
เซเรน่าไม่มีเวลาคิดอะไรแล้ว คว้ามือตรัยวิ่งลงตุ่มไปทั้งสองคน.....ตุ่มใบใหญ่รองรับคนได้พอดี....แต่....
แต่เซเรน่าคงลืมไปว่า ตุ่มใบใหญ่แอบซ่อนกายของทั้งสองไว้ได้...แต่ลูกโป่งสวรรค์ที่สายผูกข้อมือเซเรน่านั้น มันลอยเด่นอยู่เหนือตุ่มนั่นเอง... | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:22 am | |
| แมนกับบริทนีย์นั่งอยู่บนต้นมะม่วงอย่างเงียบเชียบ สายตาจ้องลงไปในความมืดเบื้องล่าง ท่าทางเหตุการณ์จะสงบเรียบร้อยดี
บริทนีย์หันมากระซิบกับแมน "นายเห็นอะไรไหม"
แมนส่ายหน้า "ไม่เห็นอะไรเลย ท่าทางยายเป๋อจะไปแล้ว"
บริทนีย์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ มองไปรอบๆ กิ่งมะม่วง "แล้วเราจะอยู่บนนี้กันอีกนานไหมเนี่ย ชั้นกลัว"
"กลัวหรอ" แมนหันมาถาม มองหน้าบริทนีย์ไม่ชัด เพราะแสงไฟจากที่ไกลๆ นั้นเลือนรางเหลือเกิน
บริทนีย์พยักหน้า "แล้วนายล่ะ กลัวไหม"
แมนขยับจะพยักหน้าตอบแล้ว แต่นึกขึ้นได้เลยทำแมนสมชื่อ "เฮ้ย กลัวอะไร ไม่เห็นจะกลัวเลย"
บริทนีย์หันมามองหน้าอย่างไม่เชื่อถือ "อย่ามาๆ หน้าซีดอย่างนี้ยังบอกไม่กลัว โธ่ ทีเมื่อกี้ละดึงมือวิ่งแน่บเลยนะ"
"อะไรๆ ใครดึงมือเธอวิ่ง" แมนรีบขัดทันที "ไม่ได้กะจะดึงมือวิ่งเลย แต่บังเอิญมือเธอมันติดมาเอง"
"มือคนนะ ไม่ใช่ลูกชิ้นปิ้ง จะได้ถือติดมือมาง่ายๆ" บริทนีย์ว่าแล้วยิ้มนิดๆ "กลัวก็ยอมรับว่ากลัวเหอะน่า"
"กลัวที่ไหนเล่า" แมนว่า "ไม่ได้กลัวสักหน่อย ไป ๆ เราลงต้นไม้นี้ไปก็ได้ ยายเป๋อไม่มาแล้วหรอก" แมนว่าแล้วทำท่าจะลงต้นไม้แบบแมนๆ
แต่กำลังจะก้าวเท้าลงอีกกิ่งหนึ่งเท่านั้นแหละ ต้นมะม่วงทั้งต้นก็สั่นไหวขึ้นมาทันที.........
มันสั่นแรงขึ้น...แรงขึ้น เหมือนมีคนมาเขย่าต้น กิ่งมะม่วง ใบมะม่วงร่วงตกกระจาย
"เฮ้ยยยยยย อะไรวะเนี่ยยยย"
แมนสะดุ้ง จับกิ่งมะม่วงไว้แน่น อีกมือหนึ่งเอื้อมไปจับมือบริทนีย์ไว้ "บริทนีย์เกาะแน่นๆ ระวังตก"
บริทนีย์เองก็จับมือแมนแน่น อีกมือหนึ่งก็จับต้นมะม่วงไว้ หนักเข้าก็ทนไม่ไหว กระเถิบไปเกาะหลังแมนไว้ หลับหูหลับตา
มะม่วงต้นนั้นยังสั่นแรงขึ้น...แรงขึ้น ....พร้อมเสียงหัวเราะของยายเป๋อดังกระซิบเข้ามาในหูทั้งสองคน ฮิฮิ....ฮิฮิ....ฮิฮิ....
แมนหลับหูหลับตาสวดมนต์ นะโม นะเม นะมัง เอ้ย นะโมตัสสะ ภะคะวะโต ภะคะวะตา เอ้ย โอ้ย สวดผิดสวดถูก แต่แมนยังพยายามสวดต่อไป จนจบบท ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น สังเกตว่า ต้นมะม่วงหยุดสั่นแล้ว เฮ้อ หยุดสั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มัวแต่สวดมนต์
แมนหันไปมองข้างหลัง เห็นบริทนีย์แอบหลังอยู่ก็บอกเบาๆ "บริทนีย์ ไม่มีอะไรแล้ว"
บริทนีย์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา มองลงไปข้างล่างก็เห็นเงียบสงบ ต้นมะม่วงไม่ไหวติง หันมามองคนข้างๆ ก็เห็นเขามองมาด้วยสายตาเหนียมๆ แล้วพูดเมินๆ
"เธอมาแอบหลังชั้นทำไม"
"ก็ชั้นกลัวนี่ ทำไม หลังนายมันเป็นอะไร แอบนิดแอบหน่อยไม่ได้ ตัวก็ไม่ได้เป็นทอง โดนนิดโดนหน่อยก็ไม่ได้ ถ้าชั้นไม่กลัวตกต้นมะม่วงนะ ชั้นไม่จับนายหรอก" บริทนีย์บ่น ปล่อยมือออกทันที แล้วทำท่าจะปืนลงต้นมะม่วง แต่แมนรีบห้ามไว้ก่อน
"เดี๋ยวๆ เธอจะไปไหน"
"อ้าว ชั้นจะลงแล้วล่ะ ชั้นไม่อยู่แล้ว เบื่อคนตัวเป็นทอง" บริทนีย์หันมาว่า แมนทำหน้าแปลกๆ แต่ก็รีบเอื้อมมือมาจับมือบริทนีย์ไว้ "เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งลง เดี๋ยวต้นมะม่วงก็สั่นอีกหรอก"
บริทนีย์ชะงัก "หมายความว่าไง..."
"ก็หมายความว่าเราต้องอยู่บนนี้ต่อไป...เพื่อความปลอดภัย" แมนพูด บริทนีย์รีบขัดทันที "อะไรนะ...จะให้อยู่บนนี้ไปถึงเมื่อไหร่อ่ะ"
"ไม่รู้สิ ก็จนกว่าเหตุการณ์จะปลอดภัยละมั้ง ขนาดเมื่อกี้ว่าปลอดภัยแล้ว ยังเกือบตายแน่ะ ดีไม่ดี อาจต้องอยู่ทั้งคืน" แมนตอบ
"อยู่ทั้งคืน โอย ตายแน่" บริทนีย์โอดครวญ แต่ก็ยอมปืนกลับมาที่กิ่งมะม่วงแต่โดยดี นั่งบนกิ่งมะม่วงมันก็ไม่ค่อยสบาย คอยแต่จะตกอยู่เรื่อย บริทนีย์พยายามนั่งทรงตัวด้วยตัวเอง แต่ก็ยังดูทุลักทุเล
แมนหันมามอง แล้วส่ายหน้า เอื้อมมือไปจับมือไว้เหมือนเดิม บริทนีย์สะบัดมือ แต่แมนไม่ยอมปล่อย
"ปล่อยชั้นเลยนะ ปล่อยให้ชั้นตกไปเลย ชั้นไม่อยากโดนตัวนายแล้ว"
"แต่ชั้นอยากโดนตัวนี่" เสียงแมนเอ่ยออกมาทันที บริทนีย์ชะงักหันมามองหน้า แต่แมนไม่มองตอบ มีแต่มือเท่านั้นที่กระชับแน่นอย่างที่ไม่ยอมจะปล่อยง่ายๆ | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:22 am | |
| บุญก่อวิ่งแบกหมิงไว้บนหลัง วิ่งหน้าตาตื่น (หมดกันพ่อหนุ่มติสแตก -*-) วิ่งมาเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
วิ่งมาไกลมากจนรู้สึกตัวเองว่า...ทำไมหนักๆ
จึงหยุดวิ่ง หันมามองข้างหลัง ก็เห็นคนที่แบกอยู่ซบหลังหลับตาปี๋ บุญก่อจึงรู้สึกตัวว่าแบกหมิงขึ้นหลังมานานพอสมควรแล้ว
คิดแล้วขำจนต้องหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เงยหน้าไปมองคนที่ขี่หลังอยู่ เรียกเสียงเบา
"หมิงๆ..."
แต่หมิงยังไม่ยอมลืมตา บุญก่อจึงเรียกดังขึ้นอีก "หมิง ลืมตาได้แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว"
หมิงค่อยๆ ลืมตาขึ้น เห็นเขาเงยหน้าขึ้นมามองในระยะใกล้ก็สะดุ้ง ก่อนจะบอกอย่างตกใจ "ตายแล้วพี่ก่อ หนักหรือเปล่า"
บุญก่อหัวเราะ หึหึ "จะให้บอกว่าไม่หนักมันก็ดูจะโกหกไปหน่อย พอดีไม่ชอบโกหกใครด้วย"
หมิงได้ฟังก็หน้าหงอยลงทันที แต่บุญก่อพูดต่อ "แต่จริงๆ แล้ว ตอนที่วิ่งมาเมื่อกี้ไม่รู้สึกว่าหนักเลยนะ เพิ่งจะมาหนักก็ตอนนี้แหละ"
หมิงฟังแล้วยิ้มขึ้นมาได้นิดหนึ่ง รีบบอก "งั้นปล่อยหมิงลงเถอะ" บุญก่อจึงค่อยๆวางตัวหมิงลงบนพื้น แต่พอหย่อนเท้าลงถึงพื้นเท่านั้นเอง หมิงก็ล้มแผละลงไปทันที
"โอ้ยยยยยย" เสียงหมิงร้องเบาๆ จับขาตัวเอง
บุญก่อหันมามอง "อ้าว เป็นอะไร"
"เจ็บขาอ่ะพี่ก่อ เหมือนเป็นตะคริว" หมิงบอกเสียงอ่อย บุญก่อรีบคุกเข่าลงนั่ง มือจับที่ขาหมิงเบาๆ แต่หมิงร้องลั่น
"โอ้ยยยยยยย"
"เอ้า อย่าร้องสิ เดี๋ยวจะดูให้" บุญก่อว่าดุๆ หมิงเงียบเสียงทันที จับตามองบุญก่อที่ค่อยๆ เริ่มต้น กดขาเบาๆ ก่อนจะหันมาบอก "เป็นตะคริวจริงๆ เดี๋ยวก็หาย"
"เราจะหยุดพักที่นี่หรอพี่ก่อ" หมิงถามพลางมองไปรอบๆ "ที่นี่มันที่ไหน"
"ไม่รู้เหมือนกัน เห็นมันมืดๆ อาจจะเป็นป่าช้าลึกๆ" บุญก่อตอบอย่างไม่แน่ใจนัก
"แล้วถ้า....ถ้าผีมาตอนนี้จะทำไง" หมิงหันมาถามสีหน้าหวาดหวั่น "หมิงคงวิ่งไม่ไหว อย่าว่าแต่วิ่งเลย เดินยังไม่ไหว"
"ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร" บุญก่อยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ "ก็แบกขึ้นหลังไปเหมือนเดิมก็ได้"
"พี่ก่อไม่หนักแย่หรอ" หมิงถามเบาๆ บุญก่อหันมามอง ดวงตานั้นอ่านไม่ออกเช่นเดิม พูดเรียบๆ ว่า "ถึงหนัก ถ้าเต็มใจแบกก็แบกได้ แต่ถ้าไม่เต็มใจ ถึงจะเบาแค่ไหน ก็ไม่แตะหรอก"
ไม่ทันขาดคำเท่านั้นเอง ก็มีลมพัดมาวูบหนึ่ง แล้วเสียงหัวเราะ ฮิฮิ....ฮิฮิ....ฮิฮิ...ก็ลอยตามลมมา
ทั้งสองสะดุ้งเฮือก หันมามองหน้ากัน แล้วบุญก่อก็พยักหน้าให้หมิง จับหมิงมาแบกไว้บนหลัง แล้ววิ่งต่อไปอย่างอดทน....
หันไปมองข้างหลังก็เห็นยายเป๋อปรากฏตัวขึ้น..........แต่เพียงครึ่งตัว....ครึ่งตัวว ววววววววว...อะจ๊ากกกกกก
ร่างครึ่งตัวของยายเป๋อนั้นกำลังลอยมาใกล้เรื่อยๆ บุญก่อกระชับหมิงไว้บนหลัง แล้วออกวิ่งเต็มกำลัง....วิ่ง....วิ่ง.....วิ่งงงงงงงงงงงง
จนมาถึงศาลเจ้าพ่อใต้ต้นไทรริมน้ำ บุญก่อรีบพาหมิงวิ่งเข้าไปแอบหลังต้นไทรทันที....พอวิ่งผ่านต้นไทรไป ก็เหมือนมีลมวูบหนึ่งพัดมาสัมผัสตัวเย็นๆ
ทั้งสองสะดุ้งเฮือก หันไปมองข้างหลัง ก็เห็นร่างครึ่งตัวของยายเป๋อนั้นค่อยๆเลือนรางลงเรื่อยๆๆ จากครึ่งตัว....เหลือแค่คอ....หัว....และผมยาวสยาย....จนหายไปจากสายตา....
บุญก่อมองภาพนั้นด้วยความอัศจรรย์แล้วทรุดตัวพาหมิงลงนั่งหลังศาลเจ้าพ่อต้นไทรอย่าง อ่อนแรง..... | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:23 am | |
| ในบึงกว้างนั้นเวิ้งว้าง.....เงียบ.....สงบ เหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิต...เวลาผ่านไปนาน.....หนึ่งชั่วโมง....สอง.....หรือว่า....สา ม......(แล้วแกไม่รู้หรอคนเขียน -*-)
ใครเลยจะรู้ว่าในบึงนั้น ที่ข้างกอบัวมีคนสองคนแช่น้ำอยู่.....ต่างคนต่างมองไปรอบๆ ด้วยความหวาดระแวง
ทุกอย่างดูเงียบสงบ จนไม่น่าจะมีอะไรโผล่มาได้....ทุยเริ่มวางใจ แต่หันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นว่าเริ่มตัวสั่นและห่อตัวด้วยความหนาว
"คุณเป็นอะไร หนาวมากหรอ" ทุยถามเบาๆ พัชราหันมาแต่ไม่ตอบ เมินหน้าหนีไป ทุยเห็นเลือนรางในความมืดนั้น ว่าพัชราปากซีด หน้าซีดไปหมด
แต่ดูนะ เป็นขนาดนี้ หนาวขนาดนี้ยังจะมาตั้งแง่กับเขาอีก ทุยคิดด้วยความฉุนเฉียว "อย่าเพิ่งหยิ่งตอนนี้ได้ไหม บอกผมมาก่อนว่าเป็นอะไร แล้วกลับไปแล้วจะหยิ่งใส่ผมต่อก็จะไม่ว่าเลย"
พัชราเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดออกมาเสียงสั่น "ไม่ต้องมายุ่งกับชั้นได้ไหม"
"ไม่ให้ยุ่งกับคุณหรอ..."ทุยมองเขม็ง "ถ้าผมรู้ว่าคุณรังเกียจผมขนาดนี้ ผมไม่ยุ่งก็ได้....แต่นี่..."ทุยหยุดแล้วมองพัชรา "คุณกำลังจะหนาวตายอยู่แล้ว ผมคงไม่เลวพอจะปล่อยให้คุณตายไปหรอก"
"ถ้าจะปล่อยให้ชั้นตายตรงนี้ ชั้นก็ไม่ว่าหรอก" พัชราสวนขึ้นมาทันทีเสียงสั่น ทุยหันมามอง ดวงตามีสีเข้มขึ้นด้วยแรงโทสะ
เป็นห่วงก็เป็นห่วง โมโหก็โมโห แถมยังไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิงคนนี้อีก บางครั้งก็เหมือนจะเข้าใจกันดี แต่บางครั้งก็กลับปั้นปึ่งใส่ บางครั้งเขาก็เห็นบางสิ่งบางอย่างในแววตาที่ซ่อนอยู่ แต่บางครั้ง เขากลับไม่พบอะไรในแววตาคู่นั้นเลย.....
"ผมก็ไม่อยากจะสนใจคนเจ้ายศเจ้าอย่างอย่างคุณหรอก ผมรู้ว่าคุณน่ะถือเกียรติสำคัญที่สุด แต่นี่คุณหนาวจะตายอยู่แล้ว จะยอมลดเกียรติให้คนอย่างผมช่วยน่ะ มันก็คงจะไม่อะไรนักหนาหรอกมั้ง"
พัชราฟังแล้วอึ้งไป มองคนตรงหน้า นึกแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมเราต้องทำอะไรตรงข้ามกับที่ใจคิด เราเองก็อยากจะเข้าใจผู้ชายคนนี้ แต่เมื่อถึงแม่ นึกถึงความรู้สึกของแม่แล้ว พัชราก็จำต้องห้ามความรู้สึกนั้นไว้
คิดแล้วพัชราก็ตัดสินใจค่อยๆ เดินแหวกกอบัวซึ่งน้ำอยู่ระดับคอออกมาเอง แต่เดินไปได้เพียงก้าวเดียว ก็พยุงตัวไม่ไหว จะล้มลงไป ทุยเห็นแล้วรีบคว้าตัวไว้ได้ทันที
ชายหนุ่มมองคนที่คว้าตัวไว้ด้วยสายตาที่แสดงความฉุนเฉียว ไม่สนใจอะไรอีก ตรงเข้าอุ้มพัชราขึ้นแนบอก พัชราสะดุ้ง ถามเสียงสั่นๆ"นี่นายจะทำอะไร"
ทุยมองด้วยสายตาดุๆ "พูดยังจะไม่เป็นคำอยู่แล้ว เดินก็ไม่ไหว ยังจะอวดเก่งอีก รู้แล้วล่ะว่าอยากตาย แต่อย่ามาตายต่อหน้าผม" แล้วพาเดินแหวกกอบัวขึ้นมาที่ตลิ่ง
เมื่อขึ้นมาถึงตลิ่ง ทุยก็ยังไม่ปล่อยพัชราลง ได้แต่มองไปรอบๆ
ฉับพลันก็ได้ยินเสียงดังกึกก้อง "เฟี้ยววววววววววววววว.....ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงง"
"โป้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง......ฟุ้บบบบบบบบบบบบบบบบบ"
"เฟี้ยวววววววววววววววววววววฟ้าววววววววววววววววววววว" (เสียงอะไรเนี่ย -*-)
พร้อมกับแสงสว่างวาบๆ บนท้องฟ้า นั่นทำให้ทุยสะดุ้ง กระชับพัชราไว้ในอ้อมแขนมั่น แล้วก็เห็นแสงไฟวับแวมๆ อยู่ที่กระท่อมแห่งหนึ่งไม่ไกลนัก ทุยตัดสินใจวิ่งตรงไปที่นั่นทันที | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:24 am | |
| "เฟี้ยวววววววววววววววววววฟ้าววววววววววววววววววว" พลุอีกหนึ่งดอกแล่นปราดขึ้นไปบนท้องฟ้า
พุทรามองด้วยความชอบใจ มือคว้ามาจุดอีกอย่างต่อเนื่อง จุดไปจุดมาไม่สนใจคนที่ยืนดูอยู่แม้แต่น้อย ทำเอาหมวดเด่นที่ยืนอยู่ต้องรีบขัดขึ้น
"นี่คุณ เมื่อไหร่จะเลิกจุดซะที จุดจนผมหูอื้อไปหมดแล้วนะ"
"อ้าว..."พุทราชะงัก หันมามองหน้า "ใครให้หมวดตามมาล่ะ ซื้อพลุมาจุดเล่น มันก็ต้องดัง จะให้มันค่อยได้ยังไง หมวดนี่แปลกจริง"
"ผมรู้แล้ว แต่พักจุดสักหน่อยได้ไหม ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนะ" หมวดเด่นแย้ง คืนนี้เขาสัญญาว่าเขาจะถอดชุดตำรวจเป็นชาวบ้าน เขาจึงประนีประนอมอ่อนข้อยิ่งนัก
"มันก็ต้องจุดต่อเนื่องสิ ไม่งั้นมันจะสนุกได้ไง" พุทราว่า กำลังจะหยิบขึ้นมาจุดอีกอัน แต่หมวดเด่นรีบห้าม
"เดี๋ยวๆ แล้วนี่คุณไม่ไปดูลิเกหรอ ป่านนี้ลิเกเล่นแล้วนะ มัวแต่จุดพลุ ไม่ได้ยินเสียงพี่ตุ่นชุมพลหรอก"
พุทราชะงักกึก "เออ จริงด้วย ป่านนี้พี่ตุ่นไม่เล่นลิเกแล้วหรอ แหม หมวดน่ะ ทำไมไม่บอก"
หมวดเด่นมองอย่างงงๆ เออ ผิดอีกนะ
พุทราทำท่าเก็บข้าวของ แต่แล้วก็ชะงัก เมื่อเห็นพลุไฟขนาดจัมโบ้ที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้จุดเลย อ่ะ จุดปิดท้ายซะหน่อย หมวดเด่นเห็นปฏิกริยานั้นแล้วรีบร้องห้าม
"อย่านะคุณพุทรา...."
แต่ว่าไม่ทันเสียแล้ว เพราะพุทราจัดการจุดพลุนั้นขึ้นไปบนฟ้าเรียบร้อยแล้ว เสียงของมันดังกึกก้องสนั่นฟ้าไปหมด
"เฟี้ยววววววววววววววววววว...........บึ้มมมมมมมมมมมมม"
เห็นเป็นแสงสว่างเจิดจ้า ก่อนที่ลูกไฟและเศษพลุจะร่วงลงไปคนละทิศละทาง
หมวดเด่นเห็นแล้วร้องเสียงดัง "ผมบอกแล้วไง ไม่ให้จุดพลุอันนั้น พลุไฟอันนั้นมันใหญ่มาก เดี๋ยวไปโดนใครเข้า มันจะอันตรายนะ"
พุทราจากที่ตื่นตาตื่นใจกับพลุอยู่ ชักสีหน้าทันที หันมาทำเสียงแข็ง "ก็แล้วมันเกิดขึ้นหรือยังล่ะหมวด"
หมวดเด่นฟังประโยคนั้นแล้ว ของขึ้นทันที ก็บอกแล้ว ว่าสวัสดิภาพของชาวบ้านคือชีวิตของหมวดเด่น เขาไม่อาจจะเอาสวัสดิภาพมาล้อเล่นหรือเลินเล่อได้ จากที่เคยถอดชุดตำรวจ ตอนนี้เขากลับมาใส่เต็มยศแล้ว รีบพูดดุๆ ขึ้นมาทันทีว่า
"ผมก็คงจะพูดคำเดิมอย่างที่เคยพูดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ว่าผมไม่รอให้เกิดขึ้นมาก่อนค่อยแก้ไขหรอก"
พุทรามองหน้า "ชั้นไม่เห็นจะมีใครเป็นอะไรเลย" เห็นหมวดเด่นดุขึ้นมาก็คิดว่าเขาเอาจริง น้ำเสียงเลยอ่อนลง
"แล้วคุณรู้หรอ ว่าจะไม่มีใครเป็นอะไรน่ะ" หมวดเด่นดุเสียงหนัก ก่อนจะว่า "ไปเลย ไปดูลิเกเลย ไม่ต้องจุดมันแล้ว พล้ง พลุ เดี๋ยวได้ยึดให้หมดหรอก"
พุทราหน้าม่อยค่อยๆ เดินตามหมวดเด่นไป หันไปมองพลุที่จุดไปเมื่อกี้ ก็ไม่เห็นจะโดนใครนี่หว่า...แค่นี้ต้องโมโหด้วย | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:25 am | |
| เศษพลุขนาดจัมโบ้ลอยละลิ่วอยู่บนฟ้า....มันค่อยๆ ลอยละลิ่ว...ลงมา....ลงมา....เรื่อยๆ
และก่อนที่จะตกถึงพื้น ดันไปปะทะเข้ากับลูกโป่งสวรรค์ที่ลอยเด่นอยู่........เมื่อตกมากระทบกัน จึงเกิดปฏิกริยาทันที....
ลูกโป่งสวรรค์แตกดัง....ปั้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง.........เศษลูกโป่งร่วงกระจุยกระ จาย เหลือแต่สายด้วนๆ...
ส่งผลให้คนที่หลบอยู่ในตุ่มถึงกับสะดุ้งเฮือก....เมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องอ ยู่บนหัว และเกิดปฏิกริยากับข้อมือของเซเรน่าทำให้กระตุกอย่างแรง
เซเรน่าเผลอร้องออกมาทันที "โอ้ยยยย"
ตรัยเองก็ตกใจเมื่อได้ยินเสียงระเบิดอยู่บนหัว รีบเอาตัวบังเซเรน่าไว้ทันทีโดยอัตโนมัติ พร้อมกับบอกเสียงเบา
"ก้มไว้ เกิดอะไรขึ้นข้างบนก็ไม่รู้"
"ชั้นได้ยินเหมือนเสียงระเบิดอ่ะ" เซเรน่าส่งเสียงอู้อี้ เพราะซบอยู่กับอกของตรัย แม้ในใจจะหวาดหวั่นและหวาดกลัว แต่เมื่อได้หลบโดยมีเขากำบังให้ กลับรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทันที
"อืมๆ เหมือนเสียงระเบิด แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะไม่งั้นเราคงเละไปแล้วล่ะ" ตรัยก้มลงมาบอก เซเรน่าก็เงยหน้าขึ้นมามองพอดี
ตาสบกันภายใต้ความมืด ถึงแม้จะมองไม่เห็นดวงตาของกันและกัน แต่เซเรน่าก็รู้ดีว่าเขามองมา และสายตาในความมืดนั้น ก็ทำให้เขินได้
"มืดตื๊ดตื๋อ ทำไมมันมืดตื๊ดตื๋อ มืดตื๊ดตื๋อ ทำไมมันมืดไปหมด...."เมื่อเขินไม่รู้จะทำยังไง จึงต้องร้องเพลงเบาๆ แบบอู้อี้ๆ
ตรัยหันมามอง แล้วส่ายหน้า รีบเอามือมาปิดปากไว้ทันที "ร้องเพลงทำไม เดี๋ยวยายแก่นั่นได้ยินหรอก"
เซเรน่าหยุดร้องทันที เหลือบตามองมือตรัยที่ปิดปากไว้ ตรัยมองตาม รู้สึกเขินขึ้นมาเหมือนกัน จึงรีบเอามือออก
"แหม ยายแก่นั่นไม่รู้จักเพลงนี้หรอก" เซเรน่าเถียงเก้อๆ ไม่สบตาด้วย
"ไม่ต้องทำพูดดีเลย อยู่เงียบๆ เป็นไหมเรา" ตรัยรีบดุกลบเกลื่อน "แล้วไม่ต้องขยับตัวบ่อยด้วยนะ เดี๋ยวโอ่งแตก"
"บ้า ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก" เซเรน่ารีบว่าทันที ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะขยับตัวยุกยิก ตรัยจึงว่า "ทำไม อึดอัดหรอ"
เซเรน่าส่ายหน้า ในใจรู้สึกยังไงไม่รู้ แปลกๆ เมื่อซบอยู่กับอกตรัย มีเขาเป็นเกราะกำบังให้อย่างนี้ ทั้งที่พื้นที่ในตุ่มก็แคบ แต่กลับไม่รู้สึกอึดอัดเลย
เสียงตรัยบอกเบาๆ ว่า "อยู่ในนี้สักพักหนึ่งก็แล้วกัน เดี๋ยวปลอดภัยแล้ว เราค่อยออกไปข้างนอก"
คนที่ซบอกตรัยอยู่พยักหน้าหงึกๆ มือจับสายลูกโป่งที่ผูกข้อมือไว้ เห็นยังอยู่ก็อุ่นใจ ค่อยๆ หลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:26 am | |
| ทุยอุ้มพัชราเข้าไปในกระท่อมเก่าๆ ซึ่งคงจะเป็นของสับปะเหร่อของวัด แต่ตอนนี้แกไม่อยู่ คงจะไปเมาอยู่ที่งานวัดนั่นเอง
ระหว่างที่อุ้มอยู่นั่น ทุยแกล้งทำไม่สนใจ แต่ในใจนั่นเต้นแรงทีเดียว เขาเหลือบมองคนในอ้อมแขนก็เห็นหลับตาหน้าซีด นึกสงสารขึ้นมาหน่อยๆ
แต่แล้วคนที่หลับตาอยู่ก็เกิดลืมตาขึ้นมาทันควัน ทำเอาทุยหลบตาไม่ทัน ตาจึงสบกัน แล้วต่างก็เมินกันไป
ทุยค่อยๆ อุ้มพัชราลงไปวางบนแคร่ไม้ไผ่ที่อยู่กลางกระท่อม สายตามองหาตะเกียง เห็นวางกลิ้งอยู่อีกมุมหนึ่ง ก็รีบคว้ามาจุดทันที
ตะเกียงส่องแสงสว่างวับแวม หันมาอีกทีก็เห็นพัชราค่อยๆ เอนตัวลงบนแคร่ ห่อตัวด้วยความหนาว
ทุยรีบวางตะเกียงลง เดินเข้าไปหา จะเอื้อมมือไปจับตัวแต่ก็ชะงัก เจ้ายศเจ้าอย่างอย่างนั้น ขืนไปจับตัวเข้าได้แหวมาอีก เขาจึงชักมือกลับ พูดเมินๆ
"คุณเป็นอะไร หนาวหรอ" เออ เขาคงร้อนมั้ง แหม ถามมาได้
พัชราไม่ตอบ ได้แต่เมินหน้าหนี ทุยเห็นกิริยานั้นแล้ว พูดดุๆ "อยากตายมากใช่ไหม ถึงทำแบบนี้ ไม่รักตัวเองก็รักแม่บ้างเถอะ"
พัชราหันขวับมาทันที "ชั้นรักแม่ชั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องมาบอกหรอก แม่ของชั้นชั้นก็ต้องรัก นายมายุ่งอะไรด้วยล่ะ" พูดแหวๆ แม้จะปากสั่นก็ตาม
"อ๋อ ผมน่ะไม่อยากยุ่งหรอก ไม่ได้อยากจะยุ่งกับครอบครัวคุณสักนิด คุณไม่ต้องกลัวหรอก" ทุยสวนขึ้นมาทันที นึกหมั่นใส้คนที่นั่งห่อตัวอยู่บนแคร่ นึกจะเถียงก็เถียงขึ้นมาเป็นชุด ไม่ได้ดูสภาพตอนนี้ของตัวเองเลย
ทุยคิดแล้วอดมองไม่ได้ มองสภาพที่เปียกน้ำนั่นแล้ว ก็ เอ่อ...เกิดอาการหน้าแดง.....แล้วเมินไป....
รีบลุกไปหาผ้าแห้งๆ เห็นผ้าขนหนูเก่าๆ อยู่ผืนหนึ่ง ก็รีบหยิบมาส่งให้
"เอ้า ไปเช็ดตัวซะก่อน แล้วค่อยมาแหวใส่ผมต่อก็ได้ คุณคงไม่คิดจะตัวเปียกอย่างนี้ทั้งคืนหรอกนะ" ทุยว่าแล้วมองคนตรงหน้า พัชรามองตามสายตาแล้วนึกขึ้นได้ รีบคว้าผ้ามาห่มทันที
"บ้าหรอ นายมองอะไร" ขนาดปากซีด ปากสั่นยังแหวได้
"อ้าว ผมก็มองของผมไปตามเรื่องตามราว ก็นี่ตาของผม ผมผิดหรอ"
"แล้วทำไมต้องมองไปทางนี้ มองไปทางอื่นเลย ไม่มีมารยาท" พัชราว่า เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมาทันทีเหมือนกัน (คิดช้าไปหน่อยนะน้อง) หันรีหันขวาง เอาผ้ามาเช็ดตัวและห่มไว้อย่างมิดชิด
"ก็ใช่สิ ผมมันไม่มีมารยาท ไม่ได้เรียนมารยาทผู้ดีมานี่" ทุยว่าแล้วเดินไปเอาผ้าขาวม้าเก่าๆมาเช็ดตัว แล้วทำท่าจะถอดเสื้อ พัชราเห็นแล้วร้องอย่างตกใจ
"นี่นายจะทำอะไรน่ะ"
ทุยชะงัก หันมามอง "ก็จะเปลี่ยนเสื้อ ทำไมหรอ เสื้อมันเปียก ผมจะขอยืมเสื้อสับปะเหร่อสักตัวนึง คุณมีปัญหาอะไรหรอ" ทุยว่าแล้วถอดเสื้อออกทันที ทำเอาพัชราพูดไม่ออก เมินหน้าหนี
ทุยหยิบเสื้อยืดของแถมเก่าๆของสับปะเหร่อมาตัวหนึ่ง เห็นว่าแห้งดีจึงหยิบมาสวม
"อืม ค่อยอุ่นหน่อย" ทุยร้องออกมาดังๆ พัชราเหลือบตามามอง ทุยเลิกคิ้ว
"ทำไม อยากใส่มั่งหรอ เอาไหมล่ะ ใส่แล้วอุ่นดีนะคุณ"
พัชราเมินหน้าหนี "ชั้นไม่ใส่ ไม่ต้องมายุ่งกับชั้น" ว่าแล้วกระชับผ้าขนหนูในอ้อมแขนให้แน่นเข้าอีก แม้ผ้าขนหนูจะแห้ง แต่เสื้อผ้าข้างในของพัชราเปียก ผ้าขนหนูจึงไม่ได้ช่วยให้อบอุ่นเท่าที่ควร แต่พัชราก็ยอมทน นั่งกอดเข่าห่มผ้าแน่น
ทุยมองแล้วส่ายหน้า ใจหนึ่งก็ห่วง ใจหนึ่งก็หมั่นใส้
"หยิ่งไม่เข้าเรื่อง" อดเปรยออกไม่ได้ แล้วเดินลอยชายออกไปนั่งที่หน้าประตู พูดลอยๆ "คืนนี้ท่าจะไปไหนไม่ได้แล้ว ขอสับปะเหร่อแกนอนสักคืนแล้วกัน แค่คืนเดียว" ทุยหยุดพูด แล้วพูดต่อเน้นๆ
"คงไม่ได้ทำให้เสียเกียรติคุณเท่าไหร่หรอกมั้ง...."
พัชราหันมาจ้องตาเขม็ง ทุยก็จ้องตอบ พัชราจึงเมินไป แล้วด้วยความหนาวและความอ่อนเพลีย อาการนั่งกอดเข่าจึงค่อยๆเลื่อนลงมาเรื่อยๆ และสุดท้าย พัชราก็ล้มลงนอนขดตัวบนแคร่ไม้ไผ่นั้น งอก่องอขิง เพราะผ้าห่มผืนนั้นไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แล้วค่อยๆ หลับตาลง
ทุยมองเห็นคนบนแคร่ล้มตัวลงนอนก็อดลุกขึ้นมาดูไม่ได้ เห็นนั่งงอก่องอขิง ท่าทางจะหนาว เสื้อผ้าก็เปียก แล้วมันจะสบายตัวได้ยังไง คิดแล้ว ทุยก็ไปหาผ้าที่แห้งๆ ได้ผ้าขาวม้ามาอีกผืนหนึ่ง เอามาห่มให้คนที่ขดตัวอยู่ พัชราขยับตัวเล็กน้อย แต่ไม่ลืมตา ท่าทางสบายขึ้น
ทุยมองแล้วยิ้มนิดๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ กระท่อม เออ แคร่มีอยู่อันเดียว แล้วเราจะนอนไหนละเนี่ย... | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:26 am | |
| "เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร๊ง เตรง เตรง....................."
เสียงระนาดโรงลิเกดังมาแต่ไกล ในเวลา พระเอกลิเกเจ้าเสน่ห์ พระเอกวัยรุ่น ตุ่น ชุมพล เริ่มทำการแสดงแล้ว...........
"กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ...."เสียงดีเจภูธรแว่วมาแต่ไกล (ดีเจคนนี้รับจ็อบทุกงาน ทั้งละครลิง ทั้งลิเก -*-)
"วันนี้ คณะลิเกที่โด่งดังที่สุดของจังหวัด พระเอกวัยรุ่น ตุ่น ชุมพลได้มาเปิดทำการแสดงแล้ววววววววววววว"
"....และในวันนี้ เราจะทำการแสดงในท้องงงงเรื่องงงงงง...."เสียงระนาดรับ "ซีซั่นนนนน เช้นส์....หรือชื่อไทยว่า เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยยยยยยยย"
"ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องมารับชมกันได้ ณ บัดนี้เลยคร้าบบบบบบบบบ..............."
สิ้นเสียงประกาศของดีเจภูธร เสียงปรบมือกราวใหญ่ก็ดังขึ้น พร้อมๆ กับตัวแสดงลิเกหญิงออกมารำถวายมือ ก่อนจะเริ่มเล่น.....
และแล้วก็ถึงเวลาสำคัญ....พระเอกวัยรุ่นตุ่น ชุมพลออกมาร่ายรำด้วยความหล่อใสระดับเทพ......
ดูหน้าตาหล่อเหลา ใสกิ๊ก เสน่ห์ยามยิ้มเยือน และท่วงท่าอันอ่อนช้อยและเข้มแข็งอยู่ในที ช่างดูหน้าหลงใหลเหลือประมาณ ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่และบรรดาแม่ยกทั้งหลายต่างลุกขึ้นแย่งเอาพวงมาลัยมาคล้องพ่อตุ่น เสียจนเต็มคอ ต้องถอดเอาไปเก็บถึงสามครั้งสามคราทีเดียว กว่าพ่อตุ่น ชุมพลจะได้ร้องลิเก....
พ่อตุ่น ชุมพลร่ายรำอย่างสวยงามและขึ้นไปนั่งบนแท่น และเอื้อนเอ่ยวจี ร้องลิเกด้วยเสียงใสปานระฆังแก้ว
"กราบสวัสดีครับพี่น้อง.....มาฟังผมร้องกันสักหน่อย ผมตุ่น ชุมพลคนตัวน้อย.....หวังเพียงแต่คอยความสงสาร ผมเป็นมือใหม่เพิ่งหัดร้อง....ท่านอย่าเพิ่งจ้องว่ากล่าว ผมไร้เสน่ห์ที่แพรวแพรว...หวังเพียงดูยาวๆ ดูนานๆ ถึงหน้าตาแย่แต่จริงใจ(-*-).....หวังเพียงท่านให้ความปราณี ผมมีความรักและภักดี.....ส่งมาเต็มปรี่ให้ทุกท่าน รักตุ่นไม่ต้องให้เต็มร้อย.....รักตุ่นน้อยๆ แต่รักนานๆ......เตร๊ง เตร่ง เตร่ง เตร๊งงงงงง เตรง เตร่ง เตร๊ง เตรง เตรงงงงงงง.....(-*-)
บรรดาคนดูปรบมือเสียงดังลั่นโรงลิเก กว่าจะเลิกปรบเห็นจะนานสักห้านาทีได้กระมัง
ตุ่น ชุมพลยิ้มหวาน ทักทายคนดูด้วยเสียงหล่อๆ อ้อนๆ
"สวัสดีครับ พ่อ แม่พี่น้อง วันนี้ตุ่นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาพบกับพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านทุ่งแมกโนเลีย ตุ่นเองก็เป็นชาวบ้านทุ่ง และก็รักที่นี่มาก ตุ่นเกิดที่นี่ ก็จะขอตายที่นี่....แต่ถ้าจะตาย....ขอตายในอ้อมอกของบรรดาพ่อๆ แม่ๆ พี่ๆน้องๆ ชาวบ้านทุ่งได้หรือเปล่าครับ" อะฮิ้ววววว
คนดูปรบมือเสียงดังสนั่น พ่อตุ่นพูดต่อ
"วันนี้เห็นพ่อแม่พี่น้องมากันอุ่นหนาฝาคั่ง ตุ่นก็ปลื้มใจจริงๆ เป็นไงครับ พ่อแม่พี่น้อง เบียดเสียดกันนี่อึดอัดหรือเปล่าครับ"
เสียงคนดูตะโกนว่า....ไม่อึดอัดจ้า.....ตุ่น ชุมพลจึงยิ้ม หวาน
"ผมไม่ได้หมายถึงเบียดเสียดที่หน้าโรงลิเกหรอกครับ ผมหมายถึงมาเบียดเสียดกันในหัวใจผมนี่ อึดอัดกันหรือเปล่าครับ" อะฮิ้ววววว
เสียงคนดูปรบมือ หัวเราะชอบใจ หลงใหลเสน่ห์พ่อพระเอกลิเกรูปหล่อกันจนถอนตัวไม่ขึ้น พ่อตุ่นชุมพลทักทายคนดูอีกครู่หนึ่งจึงเริ่มทำการแสดงตามท้องเรื่อง.... | |
|
| |
kkat เด็กยกไฟ
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 124 Registration date : 25/12/2006
| เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย Sat May 05, 2007 11:27 am | |
| พุทราเดินมากับหมวดเด่นถึงหน้าโรงลิเกก็เป็นเวลาที่ลิเกกำลังจะเริ่มแสดง มองหามะยมก็เห็นนั่งอยู่กับลุกตุ้ม คุณนายแจ่มและคุณนายเป็ด จึงเดินเข้าไปหา ส่วนหมวดเด่นออกมาเดินสังเกตการณ์รอบๆ โรงลิเก
"อ้าว พุทราไปไหนมา หาตั้งนานแน่ะ" มะยมหันมาเห็นแฝดผู้พี่ก็ร้องทัก
"ก็ไปเล่นจุดพลุมาน่ะสิ ชั้นซื้อพลุเสร็จก็มองไม่เห็นเธอกับลูกตุ้มแล้วอ่ะ ไปไหนกันมาล่ะ" พุทราตอบแล้วหันไปถามลูกตุ้ม
"ก็ไปเล่นปาเป้ามา พอดีเล่นติดลมไปหน่อย" ลูกตุ้มตอบ "เป็นไง จุดพลุสนุกไหม"
"ก็สนุกดีอยู่น่ะนะ แต่ถ้าไม่มีคนมาคอยขัด จะสนุกกว่านี้" พุทราว่าแล้วนีกถึงหมวดเด่น เมื่อมองไปเห็นเขากำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันก็ส่ายหน้า
คุณนายแจ่มหันมาเห็นพุทราก็ถาม "นี่พุทราเห็นเพชรชี่มั่งหรือเปล่า แอบหนีชั้นไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ไม่รู้ไปเที่ยวเล่นที่ไหน ลิเกพ่อตุ่นเขาเล่นแล้วยังไม่มาดูอีก"
"หนูยังไม่เห็นพัชราเลยค่ะ" พุทราตอบ "เขาคงไม่อยากดูลิเกมั้งคะ"
"ไม่อยากดูพ่อตุ่น ชุมพลเนี่ยนะ" คุณนายแจ่มขึ้นเสียงสูง "แปลกคนจริง พ่อตุ่นออกจะน่ารักขนาดนี้ ทำไมไม่อยากดู" ว่าแล้วส่งสายตาชวนฝันไปให้พระเอกลิเกที่กำลังร่ายรำอยู่บนเวที
พุทรายักไหล่แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก มองไปบนเวทีลิเกเห็นพระเอกลิเกรูปหล่อกำลังเอื้อนเอ่ยวจีเป็นทำนองอันไพเราะ ก็ยิ้มหวานส่งไปให้ หันมาบอกมะยมกับลูกตุ้มว่า
"แหม ดีนะที่มาทันดูพี่ตุ่น ถ้ามาไม่ทันละเสียดายแย่เลย" สองสาวพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย แล้วสายตาทุกคนต่างก็จับจ้องไปบนเวทีอย่างไม่สนใจอะไรอีก
หมวดเด่นปฏิบัติหน้าที่ด้วยการเดินตรวจไปในบริเวณรอบๆ เห็นพุทรานั่งจ้องพระเอกลิเกบนเวทีแล้วยิ้มหวานก็ส่ายหน้า พลางถอนหายใจออกมาทำไมไม่รู้
"เฮ้อ ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ เหมือนกันหมด" | |
|
| |
| มนต์รักทุ่งแมกโนเลีย | |
|